การปลูกผม DHI เป็นการปลูกผมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน จากการโฆษณาของหลายคลินิก ว่าทำให้มีโอกาสปลูกผมติดได้สูงขึ้น ปลูกผมได้จำนวนกราฟมากกว่าแบบปลูกผม FUE ปกติ อีกทั้งยังมีการปลูกผมยาว ที่เรียกว่าการปลูกผม Long hair DHI ด้วย
ในความเป็นจริงแล้วการปลูกผม FUE และการปลูกผม DHI ไม่ได้ต่างกันเลย แต่คำว่าปลูกผม DHI มาจากไหน? ทำไมบางคลินิกต้องแยกการปลูกผมแบบนี้ออกมาจากการปลูกผม FUE ในบทความนี้ Absolute Hair Clinic จะตอบทุกคำถามเกี่ยวกับการปลูกผม DHI
Absolute Hair Clinic คลินิกปลูกผมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเส้นผม และหนังศีรษะ
การปลูกผม FUE คือการปลูกผมที่จะเก็บกราฟผม โดยใช้เครื่องเจาะไฟฟ้า (Trivellini) เจาะเฉพาะกราฟผมออกมาจากหนังศีรษะ แล้วปลูกลงไปในตำแหน่งใหม่ โดยจะปลูกโดยใช้คีม (Forceps) หรือใช้ปากกาปลูกผม (Implanter) ก็ได้
ส่วนการปลูกผม DHI คือการปลูกผมที่นำกราฟผมออกมาด้วยเครื่องเจาะไฟฟ้าแบบเดียวกับการปลูกผม FUE แล้วนำมาปลูกลงไปในตำแหน่งใหม่ด้วยปากกาปลูกผม หรือ Implanter
ดังนั้นการปลูกผม DHI กับ FUE ไม่ได้ต่างกันเลย DHI เหมือนเป็นชื่อเรียกเฉพาะเจาะจงของการปลูกผม FUE โดยการใช้ปากกาปลูกผมเท่านั้น
คลินิกหลายๆแห่ง รวมถึง Absolute Hair Clinic ใช้ Implanter ในการปลูกผม FUE อยู่แล้ว โดยไม่ได้แยกการปลูกผม DHI ออกมาเพื่อการโฆษณา หรือเพื่อคิดค่าบริการเพิ่ม
เทคนิคปลูกผมมีเพียง 2 วิธีเท่านั้น
ในปัจจุบัน เทคนิคการปลูกผมที่รับรองโดย ISHRS มีแค่ 2 วิธี คือการปลูกผม FUE และการปลูกผม FUT เท่านั้น
ISHRS (The International Society of Hair Restoration Surgery) หรือสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ คือสมาคมทางการแพทย์ไม่แสวงหาผลกำไร เป็นสมาคมระดับโลกที่ส่งเสริมทั้งเทคนิคการรักษา และจริยธรรมการแพทย์ที่เกี่ยวกับการฟื้นฟู และรักษาอาการผมร่วง
ที่การปลูกผม FUE และ FUT ได้รับการรับรอง เพราะเป็นวิธีการเก็บกราฟผมสองวิธีที่แตกต่างกัน และมีผลต่อการรักษาอย่างมาก
โดยการปลูกผม FUE จะเก็บกราฟผมโดยการเจาะเฉพาะกราฟออกมา ส่วนการปลูกผม FUT จะเก็บกราฟผมโดยการตัดชิ้นหนังศีรษะออกมา แล้วจึงนำไปตัดแยกเป็นกราฟใต้กล้องจุลทรรศน์อีกทีหนึ่ง
ส่วนการปลูกผมแบบอื่นๆ อย่างปลูกผม DHI, Long hair DHI หรือ Celebrity hair transplantation ทั้งหมดเป็นการปลูกผม FUE ที่มีวิธีเก็บกราฟผมเหมือนกัน แค่จะแตกต่างในรายละเอียดเล็กน้อย เช่นอุปกรณ์ที่ใช้ปลูกผม หรือลักษณะของกราฟผมที่นำมาปลูก
จริงๆ แล้ว DHI หรือ Direct Hair Implantation เป็นชื่อของคลินิกแห่งหนึ่งในประเทศกรีซ ที่เชี่ยวชาญการปลูกผม “การปลูกผมแบบ DHI” จึงเป็นคำโฆษณาทางการตลาดที่ทางคลินิกนั้นใช้ และโด่งดังอย่างมาก จนมีหลายสาขาทั้งในยุโรปและอเมริกา
ดังนั้นคำว่า “ปลูกผม DHI” นี้ ไม่ได้หมายถึงการปลูกผมแบบใหม่แต่อย่างใด เป็นเพียงคำที่ตั้งขึ้นมาเพื่อแยกออกจากการปลูกผม FUE ด้วยเหตุผมทางการโฆษณาเท่านั้น
ยิ่งเครื่องมือที่ใช้ดูทันสมัย เทคนิคการรักษาเป็นเทคนิคใหม่ ก็จะสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้คลินิกได้มาก คลินิกหลายแห่งจึงแยกการปลูกผม DHI ออกมา เพื่อใช้ Implanter หรือปากกาปลูกผมเป็นการโฆษณา
บางแห่งเก็บค่าบริการปลูกผม DHI ราคาแพงกว่า FUE ปกติ โดยให้เหตุผลว่าใช้เครื่องมือที่ดีกว่า ก็คือปากกาปลูกผม
แล้วการปลูกผมด้วย Implanter ดีกว่าการปลูกผมด้วยคีม (Forceps) อย่างไร?
การปลูกผมด้วยคีมเป็นวิธีการปลูกผมดั้งเดิม โดยที่แพทย์จะใช้เข็มเจาะหนังศีรษะในทิศทาง และตำแหน่งที่ต้องการก่อน จากนั้นจะใช้คีมคีบกราฟผมที่เตรียมไว้ แล้วใส่ลงไปในรูที่เจาะไว้ โดยวิธีแบบนี้มีข้อเสียคือคีมดังกล่าวจะทำให้กราฟผมช้ำก่อนปลูก เมื่อกราฟผมช้ำ เสียหาย โอกาสที่จะปลูกผมติดก็น้อยลงไป
ส่วนการใช้ Implanter แพทย์จะนำกราฟผมใส่เข้าไปในปากกาปลูก แล้วใช้ปากกาเจาะและปลูกพร้อมๆกันในครั้งเดียว ดังนั้นกราฟผมจะไม่เสียหายจากการถูกคีบ และหนังศีรษะจะไม่ช้ำจากการถูกเจาะหลายรอบ ทำให้โอกาสที่ผมจะขึ้น มีมากกว่าการใช้คีมปลูกผมนั่นเอง
จากรายงานการวิจัยของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ พบว่า Implanter ช่วยให้ผมปลูกติดได้ดีขึ้นจริง และมีผลมากในกราฟเล็กๆที่มีผมประมาณ 1 – 2 เส้น ส่วนกราฟใหญ่ๆ ถ้าแพทย์เลือกขนาดเข็มปลูกเล็กเกินไป กราฟก็จะเสียหายได้อยู่ดี
ในปัจจุบัน หลายๆคลินิก รวมถึง Absolute Hair Clinic ไม่ได้แยกปลูกผม DHI ออกมา เนื่องจากการปลูกผม FUE ของที่คลินิกใช้ Implanter ในการปลูกผมอยู่แล้วนั่นเอง
ข้อดีของการปลูกผม DHI หรือการปลูกผมด้วยปากกาปลูกผม (Implanter) คือ
- ใช้งานง่าย แพทย์ที่ไม่ได้มีประสบการณ์มากสามารถทำได้ มีโอกาสปลูกติดสูง ไม่ต้องอาศัยความชำนาญเท่าการปลูกผมด้วยคีมปกติ บางคลินิกจึงให้ทีมพยาบาลเป็นคนปลูก ส่วนแพทย์จะกำหนดทิศทางของเส้นผมให้
- กำหนดความลึกได้สม่ำเสมอ ปลูกไม่ตื้น ไม่ลึกไป เพิ่มโอกาสให้ผมปลูกติดมากขึ้น
- ใช้เวลาน้อยกว่าการปลูกผมด้วยคีม เนื่องจากไม่ต้องเจาะหนังศีรษะก่อนการปลูกกราฟผม
- ผิวหนังไม่ช้ำเท่าการปลูกด้วยคีม เพราะไม่ต้องเจาะก่อนการปลูกผม โอกาสที่จะปลูกผมติดมีมากกว่า
- กราฟผมไม่ช้ำจากคีม
- สามารถปลูกผมติดกันได้มากขึ้น ทำให้ปลูกผมได้ถี่ขึ้น จำนวนกราฟมากขึ้นในการปลูกผมครั้งเดียว
การใช้ implanter หรือการปลูกผม DHI ก็มีข้อเสียเช่นกัน ถ้าแพทย์ หรือทีมพยาบาลไม่เชี่ยวชาญมากพอ เพราะถ้าใส่กราฟลง Implanter ไม่คล่อง หรือเลือกขนาดเข็มไม่ดี ก็สามารถทำให้กราฟเสียหายได้อยู่ดี
ปลูกผมถาวรที่ Absolute Hair Clinic
ปลูกผมถาวรที่ Absolute Hair Clinic ไม่ว่าจะปลูกผม FUE หรือ FUT
- แพทย์ใช้ Implanter ในการปลูกผมทุกเคส ทำให้สามารถแน่ใจได้ว่ากราฟผมที่ปลูกจะไม่ช้ำ
- แพทย์เฉพาะทางเป็นผู้ปลูกผมเองทุกเคส ทุกเส้น ไม่ปล่อยให้ทีมงานทำกันเอง
- ทีมพยาบาลผ่านการฝึกอบรม ผ่านการทำงานจริงจนเชี่ยวชาญ
- อุปกรณ์ทุกชิ้นได้มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก
- เครื่องมือและสถานที่สะอาด ปลอดภัย ทำให้ความเสี่ยงในการผิดพลาด หรือติดเชื้อ ต่ำมาก
- ให้คำแนะนำตลอดการใช้บริการ ทั้งการเตรียมตัวก่อนการปลูกผม และการดูแลตัวเองหลังปลูกผม
- หลังการปลูกผม มีบริการสอนการสระผม และยิงเลเซอร์พลังงานต่ำบริเวณที่ปลูกผม เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเส้นผม และลดการอักเสบที่แผล
รู้จักกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมทั้งผลงานของแพทย์แต่ละท่านจาก Absolute Hair Clinic :
คลินิกปลูกผมที่ดี ควรพิจารณาจากอะไรบ้าง? ควรเลือกปลูกผมกับคลินิกแแบบไหน? : ปลูกผมที่ไหนดี ? เคล็ดลับการเลือกคลินิกปลูกผมที่เหมาะสม ก่อนตัดสินใจปลูกผมถาวร
ข้อสรุป ‘ปลูกผม DHI’
การปลูกผม DHI คือการปลูกผม FUE แบบหนึ่ง บางคลินิกอาจจะแยกการปลูกผมทั้งสองอย่างออกจากกันเพื่อการโฆษณา และคิดค่าบริการเพิ่ม ดังนั้นผู้ที่สนใจปลูกผม DHI ควรศึกษาข้อมูล และดูรายละเอียดการรักษาของคลินิกที่สนใจ เพื่อใช้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจต่อไป
ต้องการสอบถามวิธีการรักษาผมร่วง การปลูกผม FUE กับทางคลินิก สามารถทักเข้ามาถาม หรือส่งรูปศีรษะมาเพื่อปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผมและหนังศีรษะจาก Absolute Hair Clinic โดยตรงได้ที่ Line: @Absolutehairclinic