หากคุณเป็นคนที่กำลังมีปัญหาผมร่วง ผมบาง ผมร่วงเยอะมาก กวาดบ้านทีได้ผมเป็นกำ ต้องหยิบผมออกจากแปรงหวีผมทุกวัน สระผมแล้วผมร่วง แถมทำให้ท่อตันทุกครั้งที่สระ ผมร่วงหนักมากจนผมที่หน้าผากหรือกลางศีรษะเริ่มบาง ควรหาทางแก้ไขก่อนรากผมเสื่อมและสายเกินแก้
แต่แล้วผมร่วงเกิดจากอะไร ? ควรแก้ด้วยวิธีไหน ? วิธีทำให้ผมไม่ร่วงมีอะไรบ้าง ? และจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณกำลังผมร่วงมากจนมีปัญหา ? ในบทความนี้ Absolute Hair Clinic มีคำตอบให้คุณ
สาเหตุของผมร่วง
ก่อนหาทางแก้ผมร่วง เราควรทำความเข้าใจก่อนว่าผมร่วงเกิดจากอะไร
ผมร่วงเป็นสภาวะปกติที่เกิดกับผมของเรา ในหนึ่งวันผมของเราสามารถร่วงได้ประมาณ 50 – 100 เส้นโดยที่ไม่เกิดผลเสียอะไร เนื่องจากการผมร่วงเป็นส่วนหนึ่งในวงจรชีวิตของเส้นผม
ที่ไม่บางลง เป็นเพราะในขณะที่ผมส่วนหนึ่งเข้าสู่ระยะที่ผมร่วงและหยุดสร้างเส้นผม เส้นผมส่วนใหญ่บนศีรษะจะยังอยู่ในระยะเจริญเติบโตนั่นเอง
ผมร่วงจะมีปัญหาก็ต่อเมื่อเกิดสิ่งผิดปกติขึ้นกับร่วงกายเรา อาจจะด้วยพันธุกรรม ฮอร์โมน โรค หรือยาต่างๆ จนทำให้ผมที่ร่วงมีปริมาณมากกว่าผมที่เติบโตอยู่บนศีรษะ ทำให้เริ่มเห็นว่าผมบางลงเรื่อยๆ จนอาจจะเกิดศีรษะล้านได้ในที่สุด
จะรู้ได้อย่างไรว่าผมร่วงมากกว่าปกติ ? วิธีทดสอบว่าคุณกำลังมีอาการผมร่วง ผมบางหรือเปล่า : การวัดผมร่วงโดยการหวีผมหนึ่งนาที
ส่วนสาเหตุผมร่วงนั้นมีหลายอย่าง สามารถแบ่งได้ดังนี้
ผมร่วงจากฮอร์โมน
ฮอร์โมนที่ส่งผลให้ผมร่วง และบางลง เป็นฮอร์โมนเพศชาย อาการผมร่วง ผมบางจึงสามารถพบในเพศชายได้มากกว่าเพศหญิง โดยฮอร์โมนเพศชายที่ทำให้ผมร่วงได้มากที่สุด คือฮอร์โมนไดไฮโดรเทสทอสเตอโรน (Dihydrotestosterone) หรือที่นิยมเรียกสั้นๆ ว่า ฮอร์โมน DHT
โดย DHT นี้จะทำให้วงจรชีวิตของเส้นผมสั้นลง มีการผลัดผมในบริเวณหน้าผาก และกลางศีรษะมากขึ้น ผมที่ขึ้นมาใหม่ก็จะบางลง เส้นเล็กลงกว่าเดิม จะสุดท้ายรากผมจะค่อยๆฝ่อไป กลายเป็นอาการศีรษะล้านในที่สุด
ผมร่วงกรรมพันธุ์
ผมร่วง ผมบางเนื่องจากพันธุกรรมพบได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง
ผมร่วงในผู้ชายเกิดจากพันธุกรรมมากถึง 95% โดยพันธุกรรมดังกล่าว จะส่งผลกับรากผมและฮอร์โมน 2 ประการ ดังนี้
- พันธุกรรมจะทำให้รากผมบริเวณหน้าผาก และกลางกระหม่อมมี Androgentic receptor ที่ทำหน้าที่ได้ดี ซึ่ง receptor ตัวนี้จะตอบสนองกับ DHT เมื่อมีตัวรับที่ทำงานได้ดี ฮอร์โมนตัวนี้จึงทำให้ผมร่วงได้มากขึ้นกว่าปกติ
- รากผมที่หน้าผากกับกลางกระหม่อมจะมีเอนไซม์ที่ชื่อว่า Type 2 – 5 reductase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่จะช่วยเปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (testosterone) หรือที่รู้จักกันในชื่อของฮอร์โมนเพศชาย ให้กลายเป็น DHT ยิ่งมีปริมาณ DHT มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ผมร่วงได้มากเท่านั้น
ในผู้หญิงเองก็มีฮอร์โมนเพศชายอย่างฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน และฮอร์โมน DHT เช่นกัน แต่ผู้หญิงจะไม่ผมร่วงด้วยเหตุผลด้านฮอร์โมน เพราะนอกจากผู้หญิงจะมีปริมาณฮอร์โมนดังกล่าวที่น้อยกว่าแล้ว ในผู้หญิงยังมีเอนไซม์ที่ชื่อว่า Cytochrome P450 Aromatase ด้วย
โดยเอนไซม์ Cytochrome P450 Aromatase มีหน้าที่เปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ให้เป็นฮอร์โมนเพศหญิงตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า Estrodiole ซึ่งฮอร์โมนดังกล่าวจะไปช่วยต้านการทำงานของฮอร์โมนเพศชาย ด้วยเหตุนี้ DHT จึงไม่ทำให้เกิดการผมร่วงในเพศหญิงนั่นเอง
ส่วนผมร่วงในผู้หญิงนั้น ส่วนมากเกิดจากพันธุกรรมเช่นกัน แม้จะทราบแล้วว่าผมร่วงพันธุกรรมในเพศหญิงไม่เกี่ยวกับฮอร์โมน DHT แต่เราก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด การแพทย์ในปัจจุบันยังคงศึกษาเรื่องนี้อยู่ เพื่อหาทางรักษาที่ต้นเหตุต่อไป อ่านเรื่องนี้โดยละเอียดที่ สาเหตุผมร่วง ผู้หญิง
ผมร่วงจากโรคต่าง ๆ
โรคที่ทำให้ผมร่วงโดยตรง เช่น โรคผมร่วงทั่วศีรษะ (Telogen Effluvium) ที่จะทำให้ผมร่วงไวกว่าที่ควรเป็น, โรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) ที่ผมจะร่วงหายไปเป็นหย่อม มีตั้งแต่ 1 – 2 หย่อม ไปจนถึงทั่วศีรษะ, โรคกลากเชื้อราบนหนังศีรษะ (Tinea Capitis) ที่จะทำให้ผมร่วงเป็นหย่อมจากการติดเชื้อ, และโรคดึงผม (Trichotillomania) ที่เป็นความผิดปกติทางจิต ซึ่งผู้ป่วยจะระบายอารมณ์ด้วยการดึงผมตนเอง
นอกจากโรคที่กล่าวมา โรคอื่นๆ ยังมีผลข้างเคียงของโรคที่ทำให้ผมร่วงได้อีก เช่น โรคติดเชื้อต่างๆ เอชไอวี ซิฟิลิส ติดเชื้อรา โรคที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน โรคผิวหนัง โรคไต ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ โลหิตจาง และอีกมาก
ผมร่วงจากความเครียด
ความเครียดทำให้เกิดผมร่วงได้จากทั้งทางร่างกาย และจิตใจ
ความเครียดเป็นสิ่งที่ส่งผลให้ร่างกายบางส่วนทำงานต่างไปจากเดิม เช่นหัวใจเต้นเร็ว ความดันสูง กล้ามเนื้อและฮอร์โมนทำงานผิดปกติไป ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้เครียดแล้วผมร่วง
ความเครียดอาจจะทำให้ผมเข้าสู่ระยะพักนานกว่าปกติ ผมร่วงง่าย ผมที่ขึ้นมาใหม่ก็จะเส้นเล็กและอ่อนแอกว่าเดิม หรือถ้าร้ายแรงกว่านี้ ความเครียดอาจจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ และเข้าทำลายรากผม จนทำให้ผมร่วงเป็นหย่อม ผมร่วงเป็นวงได้ในที่สุด
นอกจากนี้ ความเครียดยังทำให้ผู้ป่วยบางรายระบายอารมณ์โดยการจิกทึ้ง หรือถอนผมตัวเอง จนทำให้เส้นผมอ่อนแอลง เมื่อทำมากๆเข้าจนควบคุมตนเองไม่ได้จะกลายเป็นโรคดึงผม (Trichotillomania) ในที่สุด
ผมร่วงหลังผ่าตัด
หลังผ่าตัด 3 – 4 เดือน ผมจะมีโอกาสร่วงได้ อาจจะด้วยความเครียด หรือผลข้างเคียงจากยาสลบที่ใช้ ซึ่งเป็นได้ทั้งแบบดมไอระเหย และรูปแบบฉีดเลย
นอกจากการผ่าตัดอื่นๆแล้ว การผ่าตัดเพื่อปลูกผมเองก็ทำให้ผมร่วงได้เช่นกัน ซึ่งอาการผมร่วงนี้จะเรียกว่าอาการ Shock Loss อาจเกิดได้จากความเครียด ยาสลบ และการพักฟื้นของตัวรากผมเอง เพราะหลังการปลูกผม รากผมและหนังศีรษะจะบอบช้ำ ทำให้รากผมบริเวณที่ปลูกผมเข้าสู่ระยะพัก จนทำให้ผมร่วงในที่สุด
ผ่าตัดปลูกผมคืออะไร ? มีกี่วิธี ? แล้ววิธีไหนดีกว่ากัน ?
ปลูกผม
ปลูกผม FUE
ปลูกผม FUT
ข้อแตกต่าง FUE Vs FUT
ผมร่วงหลังคลอด
ผมร่วงหลังคลอดเกิดจากระดับฮอร์โมนเพศที่เปลี่ยนไป เมื่อผู้หญิงตั้งครรภ์จะมีฮอร์โมนเพศหญิงที่ชื่อว่าเอสโตรเจน (Estrogen) สูงกว่าปกติ โดยฮอร์โมนตัวนี้จะช่วยทำให้ผมสุขภาพดีขึ้น ขาดร่วงน้อยลง
หลังคลอดบุตร ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลงจนเป็นปกติ เมื่อเอสโตรเจนลดลง ผมก็จะไม่แข็งแรงเท่าเดิม ผมที่ควรจะร่วงตั้งแต่หลายเดือนก่อนแต่ไม่ร่วงเพราะฮอร์โมน ก็จะกลับมาร่วงเมื่อฮอร์โมนหายไป หลังคลอดผมจึงดูร่วงเยอะกว่าปกตินั่นเอง
ผมร่วงจากเคมี
ผมร่วงจากเคมี เคมีบำบัด หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อคีโมผมร่วง คือผลข้างเคียงจากการรักษาโรคมะเร็งรูปแบบหนึ่ง เคมีบำบัดทำให้ผมร่วงได้ เนื่องจากเคมีบำบัดจะช่วยลดการแบ่งตัวของเซลล์ ถ้าเคมีดังกล่าวไปออกฤทธิ์ที่เซลล์มะเร็ง ก็จะทำให้มะเร็งเติบโตได้ช้าลง
แต่เคมีบำบัดจะเข้าสู่ร่างกายทางกระเสเลือด เราจึงไม่สามารถเจาะจงได้ว่าอยากให้เคมีออกฤทธิ์ที่ไหน เมื่อเคมีดังกล่าวมาที่ผม ก็จะทำให้รากผมแบ่งเซลล์เพื่อสร้างผมได้ช้าลง รากผมที่ปกติจะแบ่งตัวเร็วเพื่อให้ผมยาว พอถูกทำให้แบ่งตัวช้าลง ผมที่ได้ก็จะไม่แข็งแรง จนทำให้ผมร่วงไปในที่สุด
ผมร่วงเพราะขาดสารอาหาร
สารอาหารบางอย่างเป็นส่วนประกอบในการสร้างเส้นผม และช่วยในการบำรุงเส้นผม หากขาดสารอาหารดังกล่าวไป จะทำให้ผมไม่แข็งแรง ขาดร่วงได้ง่าย
แล้วผมร่วงขาดสารอาหารอะไร ? สารอาหารดังกล่าว ได้แก่โปรตีน ธาตุเหล็ก สังกะสี วิตามินบี ดีและไบโอติน เป็นต้น โดยโปรตีนจะเป็นส่วนที่สำคัญมาก เนื่องจากส่วนประกอบหลักของเส้นผมคือโปรตีนนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม : 10 อาหารบำรุงผม พร้อมสารอาหารที่เส้นผมต้องการ รักษาผมร่วง ผมบาง จากภายใน
การใช้ชีวิตประจำวันอื่น ๆ
- หวีผมมากเกินไป หรือหวีผมในขณะที่เปียก ทำให้ผมชั้นนอกถูกทำลาย และขาดร่วงได้ง่าย
- แต่งผมโดยใช้ความร้อน หรือสารเคมีบ่อยๆ จนทำให้ผมแห้งเสีย ขาดร่วงง่าย
- ลดน้ำหนักผิดวิธี ทานโปรตีนน้อยเกินไป ขาดแร่ธาตุบางอย่างที่ช่วยให้ผมแข็งแรง
- ทานอาหารรสจัดมากเกินไป ส่งผลกับความดันจนทำให้สารอาหารไปเลี้ยงผมไม่เพียงพอ
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่จัด ทำให้เส้นเลือดหดตัวจนเลือดไปเลี้ยงผมไม่เพียงพอ
- รัดผมแน่นเกินไป
ต้องการรักษาผมร่วงผมบาง เรียนรู้การรักษาแบบต่างๆจากบริการของเรา : Absolute Hair Clinic (Home)
เรื่องที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับผมร่วง
- การไหลเวียนโลหิตไม่ดี ทำให้ผมร่วง
เป็นเรื่องเข้าใจผิด เนื่องจากการไหลเวียนโลหิตไม่ได้ทำให้ผมร่วง แต่การที่เส้นเลือดฝอยน้อยจนเข้าไม่ถึงรากผมอย่างเพียงพอต่างหากที่ทำให้ผมร่วง
เมื่อเลือดเข้าไม่ถึงรากผมมากนัก ก็ไม่สามารถลำเลียงสารอาหารไปให้รากผมสร้างผมได้อย่างเพียงพอ ผมที่สร้างออกมาก็จะไม่แข็งแรง เส้นเล็ก ขาดร่วงง่าย เมื่อสารอาหารไปเลี้ยงได้น้อยลงเรื่อยๆ ก็จะทำให้รากผมฝ่อไปในที่สุด
ปัญหาผมบางในผู้เข้ารับการรักษาบางรายจึงเป็นการกระตุ้นหนังศีรษะให้สร้างเส้นเลือดฝอยมากขึ้น เช่น การทำ PRP ผม, การฉีดสเต็มเซลล์ผม, การทำเลเซอร์ LLLT, และการทำโฟโตน่าเลเซอร์
- ไขมันอุดที่รูขุมขน และหนังศีรษะมัน
คนมักเข้าใจว่าผมร่วงเกิดจากไขมันมาอุดที่รูขุมขนจนสารอาหารไปเลี้ยงผมไม่ได้ ทำให้ผมไม่ขึ้น หรือผมบางลง อีกทั้งผมมันยังทำให้ผมขาดร่วงง่ายกว่าเดิม ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดมาก
ผมสร้างขึ้นจากส่วนของรากผมที่ฝังตัวอยู่ในหนังศีรษะของเรา โดยสารอาหารจะถูกส่งผ่านเส้นเลือดไปที่รากขนโดยตรงภายในผิวหนัง ดังนั้นไขมันที่อยู่ตามรูขุมขนด้านนอกไม่ได้เกี่ยวกับการรับสารอาหารของเส้นผมเลย
ไขมันที่อยู่ตามเส้นผม หรือหนังศีรษะของเรานั้น มาจากต่อมไขมันภายในรูขุมขน ที่จะผลิตไขมันออกมาเคลือบเส้นผมและหนังศีรษะไว้ เพื่อให้ผมไม่ขาดง่าย ไม่แตกปลาย หวีง่าย ทั้งยังควบคุมความเป็นกรดด่างของหนังศีรษะด้วย
ส่วนที่เห็นว่าคนผมบางมักจะมีหนังศีรษะมัน เป็นเพราะคนผมบางไม่มีผมที่จะคอยดูซับไขมันไว้เหมือนคนที่มีผมปกติ ผมจึงดูมันกว่าทั้งที่ปริมาณไขมันมีเท่ากัน และไขมันที่ผมก็ไม่ได้ทำให้ผมบางแต่อย่างใด คนผมบางมักจะผมมัน จึงสามารถสร้างความเข้าใจผิดได้นั่นเอง
โดยสรุปก็คือไขมันบนหนังศีรษะเป็นประโยชน์มาก และไม่ได้ทำให้ผมร่วงแต่อย่างใด
- สระผมบ่อยเกินไป
เวลาที่เราสระผมมักจะมีผมหลุดร่วงออกมามาก ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจไปว่าสระผมแล้วผมร่วง ยิ่งสระผมบ่อย ผมก็ยิ่งร่วงมาก ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย
เมื่อผมเปียก ผมจะอ่อนแอลง และมีน้ำหนักมาก ทำให้ผมที่กำลังจะร่วงตามวงจรชีวิตของผมอยู่แล้ว หลุดออกมาเกือบทั้งหมด ทำให้เหมือนว่ามีผมร่วงเยอะ แต่ความเป็นจริงแล้วผมในส่วนนั้น เป็นส่วนที่จะต้องร่วงออกมาอยู่แล้วนั่นเอง
- แพ้ยาสระผม
บางคนใช้ยาสระผมยี่ห้อหนึ่งในช่วงที่ผมร่วงเยอะ จึงทำให้เข้าใจไปว่าตนเองแพ้ยาสระผม ความจริงแล้วการแพ้ยาสระผมในลักษณะนี้ เป็นไปไม่ได้เลย
ยาสระผมที่ขายอยู่ตามท้องตลาดปัจจุบันไม่ได้มีสารรุนแรงถึงขนาดทำให้แพ้ หากแพ้สารเคมีในยาสระผมจริงๆ หนังศีรษะจะเป็นขุย มีผื่นแดงขึ้น และจะทำให้ผมร่วงเป็นหย่อม ไม่ใช่สาเหตุการเกิดผมร่วงผมบางทั้งศีรษะอย่างแน่นอน
- การสวมหมวก หรือหมวกกันน็อกนาน ๆ
การสวมหมวกแล้วทำให้ศีรษะล้าน เป็นเพียงความเชื่อโบราณ และความเข้าใจผิดเท่านั้น เนื่องจากคนมักเข้าใจกันว่าการสวมหมวกคือสาเหตุผมร่วง โดยจะทำให้ผมเข้าถึงออกซิเจนได้น้อยลง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ออกซิเจนจะเข้ามาเลี้ยงที่หนังศีรษะผ่านทางเลือด ไม่ใช่ทางอากาศแต่อย่างใด
ทั้งนี้การสวมหมวกมาก ๆ ก็มีผลกับการผมร่วงที่เกิดจากเชื้อราได้ เนื่องจากเมื่อสวมหมวกนานจนเหงื่อออกมาก จนหนังศีรษะความชื้นสูง จะทำให้เชื้อราเติบโตได้ดี ดังนั้นหากเป็นเชื้อราที่ศีรษะอยู่แล้ว ก็ไม่ควรสวมหมวกนานจนเกินไป
กำลังผมร่วงอยู่ใช่ไหม ? ต้องการปลูกผมเพื่อรักษาอาการผมร่วง ผมบาง :
ปลูกผมที่ไหนดี
ราคาปลูกผม
ผมร่วงและวงจรชีวิตเส้นผม
บนหนังศีรษะของเรามีรูขุมขนประมาณ 50,000 รูขุมขน แต่ละรูขุมขนมีผมอยู่ได้ตั้งแต่ 1 – 4 เส้น ทำให้ทั้งศีรษะมีผมอยู่ทั้งหมด 100,000 เส้น และผมร่วงเป็นเรื่องปกติมากๆ เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของวงจรชีวิตเส้นผม โดยวงจรเส้นผมจะวนเวียนไปตามนี้
- ระยะเจริญเติบโต (Anagen) เส้นผมส่วนใหญ่ประมาณ 85 – 90% อยู่ในระยะนี้ โดยที่ระยะเจริญเติบโตดังกล่าวจะเป็นระยะที่เกิดขึ้นนานที่สุดในวงจรชีวิตของเส้นผม คือประมาณ 2 – 6 ปี หรือ 1,000 วัน จะนานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมของแต่ละคน ยิ่งระยะนี้เกิดขึ้นนาน ผมก็จะยิ่งยาวได้มาก นอกจากนี้ระยะเจริญเติบโตยังเป็นระยะที่ต่อมรากผมอยู่ลึกที่สุดด้วย
- ระยะหยุดเจริญเติบโต (Catagen) เป็นระยะที่เส้นผมจะหยุดงอก รากผมหยุดแบ่งเซลล์ และต่อมรากผมจะค่อยๆเคลื่อนตัวสูงขึ้น มีผมเพียงแค่ 1% บนศีรษะอยู่ในระยะนี้ และเส้นผมจะอยู่ในระยะนี้เพียง 2 – 3 สัปดาห์
- ระยะพัก (Telogen) เป็นระยะมีประมาณ 10 – 15% ของผมทั้งศีรษะ รากผมจะฟื้นฟูตัวเองเพื่อเตรียมสำหรับสร้างผมใหม่ ในช่วงต้นของระยะนี้ ต่อมรากผมจะถูกดันขึ้นจนสูงที่สุด หลังจากนั้นรากผมจะพักฟื้นฟูตัวเอง จะไม่มีการสร้างผมประมาณ 1 – 4 เดือน หรือประมาณ 100 วัน ก่อนที่ต่อมรากผมจะลดลงมาอยู่ระดับเดิม และเข้าสู่ระยะเจริญเติบโต สร้างผมใหม่ จนดันให้ผมเก่าหลุดออกมาในที่สุด (Exogen Phase)
ผมของเราจะงอกได้เดือนละประมาณ 1 เซนติเมตร กว่าผมจะร่วงผมก็จะสามารถยาวได้ประมาณ 30 – 100 เซนติเมตรเลยทีเดียว นอกจากนี้รูขุมขนแต่ละรูสามารถผลิตผมได้มากถึง 20 ชุดตลอดชีวิตของเรา โดยชุดหลังๆเส้นผมจะบาง และร่วงไวกว่าชุดแรก ดังนั้นหากไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับโรคต่างๆ พันธุกรรม หรือฮอร์โมน เราก็จะสามารถมีผมไปได้ตลอดชีวิตหากดูแลรักษาผมให้ดี
การแบ่งชั้นของเส้นผม
หากผ่าเส้นผมออกในแนวขวาง ใต้กล้องจุลทรรศน์เราจะเห็นว่าผมของเรามีสามชั้น เรียงตั้งแต่ชั้นนอกสุดได้ดังนี้
- ชั้นคิวติเคิล (Cuticle) เป็นชั้นที่จะเคลือบอยู่ด้านนอกสุดของเส้นผม ทำให้เส้นผมเงางาม ไม่เปราะแตกง่าย ชั้นนี้จะค่อนข้างบางและโปร่งใส สามารถเสียหายได้ง่ายจากสารเคมี ความร้อน แสงแดด และการหวีผมที่มากเกินไป
- ชั้นคอร์เทค (Cortex) เป็นชั้นที่ประกอบด้วยเส้นใยโปรตีนขนาดเล็กและเม็ดสีจำนวนมาก เม็ดสีเหล่านั้นจะแทรกอยู่ตามเส้นใยโปรตีน เป็นส่วนที่ทำให้เราเห็นสีผมนั่นเอง
- ชั้นในสุด เป็นชั้นที่จะมีเฉพาะในผมที่เส้นใหญ่มากเท่านั้น ชั้นในสุดจะเป็นอากาศกลวงๆ หรืออาจเป็นท่อลำเลียงสารอาหารที่ใช้หล่อเลี้ยงผม
ผมทั้งหมดของเรา ประกอบด้วยโปรตีนเป็นส่วนใหญ่ โดยจะมีมากถึง 65-95% มีไขมัน 25% และมีน้ำอยู่อีกเล็กน้อยในปริมาณที่ไม่แน่นอน เนื่องจากผมดูดซับน้ำได้ดีมาก ผมสามารถดูดซับน้ำได้มากถึง 40% ของน้ำหนักผมในตอนที่แห้งเลยทีเดียว
เส้นผมของแต่ละคนจะเป็นอย่างไร มีปริมาณมากแค่ไหน ผมเส้นเล็กหรือใหญ่ กระจายตัวได้ดีหรือไม่ เป็นผมหยิก ผมตรง หรือมีสีอะไร จะขึ้นอยู่กับพันธุกรรมทั้งหมด รวมถึงอาการผมร่วงเองก็เกี่ยวกับพันธุกรรมอย่างมากเช่นกัน
อาการผมร่วงแบบไหนที่ควรพบแพทย์
ผมร่วงเป็นเรื่องปกติก็จริง แต่หากผมร่วงมากเกินไป หรือมีอาการผมร่วงที่ผิดปกติก็ควรพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา โดยวิธีสังเกตตัวเองว่าควรพบแพทย์หรือเปล่า มีข้อสังเกตดังนี้
- ผมร่วงมากกว่า 100 เส้นต่อวัน โดยให้นับตอนที่ทำกิจกรรมระหว่างวัน เช่นเส้นผมที่ติดบนหวีในแต่ละวัน ผมบนหมอน ผมในห้องครัว ผมที่โต๊ะทำงาน หรือให้นับช่วงสระผม ว่าผมร่วงไปกี่เส้น หากสระผมทุกวัน สระครั้งหนึ่งผมร่วงเกิน 100 เส้นถือว่าผิดปกติ แต่ถ้าสระผมวันเว้นวัน ผมต้องร่วงเกิน 200 เส้นจึงจะถือว่าผิดปกติ
- ลองหวีผมก่อนสระผม ว่าถ้าหวีผม 1 นาที จะมีผมร่วงออกมากี่เส้น ถ้ามีผมร่วงเกิน 10 – 20 เส้น ก็ควรไปพบแพทย์
- สังเกตว่ามีหย่อมที่ผมหายไปบนศีรษะ ผมร่วงเป็นหย่อม หรือผมร่วงเป็นวงขนาดเท่าเหรียญสิบ
หากมีอาการเหล่านี้ ควรพบแพทย์ด้านเส้นผม และหนังศีรษะ เนื่องจากอาจเกิดโรคบางอย่างที่ทำให้ผมร่วง หรืออาจมีปัญหาผมร่วง ผมบางจากฮอร์โมนและพันธุกรรมได้ หากรีบรักษาก็จะสามารถแก้ไขได้เร็ว สามารถรักษาด้วยวิธีเบื้องต้นที่ไม่ต้องมีการผ่าตัดได้
วิธีแก้ผมร่วง
ผมร่วงอาจจะดูเป็นปัญหาที่เล็กน้อย แต่หากไม่แก้ไข ในระยะยาวอาจเกิดปัญหาได้ โดยวิธีแก้ผมร่วงไม่ได้มีแค่การพบแพทย์เพื่อทำการรักษา หรือให้ยามาทานเท่านั้น แต่แพทย์จะยังปรับพฤติกรรมของเราในการใช้ชีวิต เพื่อให้การรักษาได้ผลดีมากขึ้นด้วย โดยการรักษาจะแบ่งออกเป็น 2 วิธีดังนี้
วิธีรักษาผมร่วงด้วยตัวเอง
วิธีนี้เป็นวิธีเบื้องต้น ที่เราทำด้วยตัวเองที่บ้านได้ก่อนไปพบแพทย์ หรืออาจจะไม่ต้องไปพบแพทย์ด้วยซ้ำหากทำแล้วหายดี อีกทั้งวิธีดังกล่าวยังเป็นวิธีที่แพทย์มักให้ทำควบคู่กับการรักษาไปด้วยเพื่อให้ผลการรักษาดีขึ้น โดยวิธีรักษาจะมีดังนี้
- เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ อุดมไปด้วยโปรตีน แร่ธาตุ และวิตามินต่างๆที่จำเป็นต่อการสร้างและบำรุงเส้นผม ไม่ทานอาหารรสจัดเกินไป
- ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่
- ไม่มัดผมแน่น หรือหวีผมบ่อยจนเกินไป
- รักษาเส้นผมไม่ให้โดนแสงแดด ความร้อน หรือสารเคมีมากจนเกินไป
- ดูแลสุขภาพจิตของตนเอง พยายามผ่อนคลาย ไม่ทำให้ตนเองรู้สึกเครียดจนเกินไป
วิธีรักษาผมร่วงทางการแพทย์
หากผมร่วงในระยะที่รุนแรงขึ้น หรือรักษาผมร่วงด้วยตัวเองแล้วไม่หาย แพทย์จะแนะนำให้รักษาด้วยวิธีการต่าง ๆ เพื่อลดผมร่วงดังนี้
- ทานยาแก้ผมร่วง เพื่อรักษาอาการผมร่วงในระยะยาว
- การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น หรือที่เรียกว่าการทำ PRP ผม เพื่อเพิ่มอาหารผม ทำให้ผมงอกได้ดีขึ้น
- การฉีดสเต็มเซลล์ผม เพื่อกระตุ้นให้ผมงอก และสร้างเส้นเลือดฝอยให้ไปเลี้ยงผมอย่างทั่วถึงมากขึ้น
- การใช้เลเซอร์รักษาผมร่วง (Fotona Laser, LLLT) เพื่อกระตุ้นให้เส้นผมและหนังศีรษะทำงานได้ดีขึ้น
- การปลูกผมด้วยวิธีปลูกผม FUE หรือปลูกผม FUT ในกรณีที่รากผมฝ่อจนไม่สามารถงอกผมใหม่ได้แล้ว
รักษาผมร่วงที่ไหนดี
ผมร่วงเป็นปัญหาที่อาจจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นการเลือกคลินิกที่จะรักษาเราอย่างดีตั้งแต่ต้น เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ยิ่งรักษาดี รักษาเร็ว โอกาสที่ผมจะร่วงจนผมบาง หรือศีรษะล้านจะยิ่งมีน้อย
ข้อที่ควรพิจารณาในการเลือกคลินิกรักษาผมร่วง ผมบาง คือคลินิกนั้นต้องดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แพทย์ต้องเป็นผู้วินิจฉัยเอง และเลือกวิธีการรักษาให้เองทุกเคส เพื่อไม่ให้มีข้อผิดพลาดจนเสียโอกาสที่จะมีผมสุขภาพดีไป นอกจากนี้คลินิกยังต้องสะอาด ได้มาตรฐาน และมีเครื่องมือครบครันอยู่เสมอ
อ่านเพิ่มเติม Checklist พิจารณาคลินิกปลูกผม ปลูกผมที่ไหนดีที่สุด! : ปลูกผมที่ไหนดี
Absolute Hair Clinic คลินิกปลูกผมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เป็นตัวเลือกคลินิกปลูกผมที่ยอดเยี่ยมของคุณ
- Absolute Hair Clinic ดูแลผู้มีอาการผมร่วงทุกเคสโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเส้นผมและหนังศีรษะ ไม่ปล่อยให้ทีมงานทำเอง
- มีตัวเลือกวิธีการรักษามากมาย เพื่อหาวิธีที่เหมาะกับปัญหาผมร่วงของคุณให้มากที่สุด
- รักษาทุกเคสด้วยอุปกรณ์ที่สะอาด ปลอดเชื้อ ได้มาตรฐาน
- อุปกรณ์ทุกชิ้นเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองจากทั้งในไทยและต่างประเทศ ให้คุณมั่นใจได้ว่าปลูกผมกับเราจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน
สนใจติดต่อได้ที่
LINE: @Absolutehairclinic
โทร: 087-275-2989, 095-927-3938
เว็บไซต์: https://absolutehairclinic.com/
รู้จักกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมทั้งผลงานของแพทย์แต่ละท่านจาก Absolute Hair Clinic :
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับผมร่วง
กินคีโตผมร่วง จริงไหม
กินคีโตแล้วผมร่วง เป็นเรื่องจริง แต่จะเกิดแค่กับกรณีที่กินคีโตแบบหักดิบ งดกินแป้งทั้งหมดตั้งแต่ครั้งแรก เมื่อสารอาหารที่ร่างกายได้รับเปลี่ยนไปมาก ร่างกายจะปรับตัวไม่ทัน จนเกิดอาการช็อก และเครียดในระดับเซลล์ ซึ่งสามารถส่งผลให้ผมร่วงได้
ดังนั้นหากต้องการกินคีโตให้ผมไม่ร่วง ควรค่อยๆลดคาโบไฮเดรตและน้ำตาลลง แล้วจึงค่อยงดในเวลาต่อมาเพื่อให้ร่างกายได้ปรับสภาพตามอาหารที่เปลี่ยนไป
หากผมร่วงจากคีโตสามารถรักษาด้วยการปรับพฤติกรรมในเบื้องต้น หรือพบแพทย์เพื่อรักษาโดยการบำรุงผม ยังไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดปลูกผมถาวร เพราะผมที่ร่วงไปสามารถขึ้นใหม่ได้เมื่อเวลาผ่านไป
กินผงชูรสเยอะ ผมร่วง จริงไหม
ไม่มีงานวิจัยใดบอกว่าการกินผงชูรสทำให้ผมร่วงได้ ดังนั้นความเข้าใจนี้จึงเป็นเรื่องที่ผิด แต่การกินรสจัดก็มีผลให้ผมร่วงได้ในทางอ้อมเหมือนกัน เนื่องจากอาหารรสจัดจะทำให้เส้นเลือดหดเกร็ง ส่งผลกับความดันจนทำให้เลือดไปเลี้ยงรากผมไม่เพียงพอ
ทั้งนี้แม้จะมีผลบ้าง แต่การทานอาการรสจัดก็ไม่ได้ทำให้ผมร่วง เพียงแต่ว่าหากมีอาการผมร่วงอยู่แล้ว การกินรสจัดจะทำให้อาการผมร่วงแย่ลงเล็กน้อยเท่านั้น
ทานยาคุม ผมร่วงจริงหรือ
ทานยาคุมสามารถผมร่วงได้จริง อาจจะเป็นผลมาจากตัวยาบางตัวในยาที่เป็นปัจจัยทำให้ผมร่วง หรืออาจจะเกิดจากระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป เพราะยาคุมมักมีผลกับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ทำให้ผมแข็งแรง เมื่อระดับฮอร์โมนเปลี่ยนก็อาจจะทำให้ผมร่วงได้
ผมร่วง ดัดผมได้ไหม
คนผมร่วงสามารถตัดผมได้ตามปกติ แต่ผมที่สั้นลงไม่ได้ทำให้ผมร่วงน้อยลง เนื่องจากปัญหาผมร่วงมักจะเกิดที่รากผม ไม่ว่าผมสั้นหรือผมยาว หากมีปัญหาผมร่วงอยู่แล้ว ผมก็จะร่วงเท่าเดิม
ที่คนเข้าใจว่าผมสั้นแล้วผมจะร่วงน้อยลง เป็นเพราะปริมาณผมที่ร่วงออกมาดูน้อยกว่าผมที่ร่วงตอนผมยาว แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากลองนับจำนวนเส้นผมที่ร่วงดู ก็จะเห็นว่ามีปริมาณเท่า ๆ กัน
โกนผม ทำให้ผมหนาขึ้นไหม
โกนผมไม่ได้ทำให้ผมหนาขึ้น เนื่องจากปัญหาผมบางเกิดจากรากผมสร้างผมได้บางลงกว่าเดิมจากหลายๆปัจจัย ทั้งพันธุกรรม ฮอร์โมน อายุ หรือโรคต่างๆ ดังนั้นไม่ว่าจะโกนผมกี่รอบ หากไม่รักษาอาการผมร่วง ผมที่ขึ้นมาก็จะบางเท่าเดิม หรืออาจจะบางมากกว่าเดิมเมื่อเวลาผ่านไป
รังแค ทำให้ผมร่วงหรือไม่
รังแคไม่ได้ทำให้ผมร่วง แต่การที่เราเกาศีรษะเนื่องจากรังแค ส่วนนี้ต่างหากที่ทำให้ผมร่วง
รังแคสามารถก่อให้เกิดอาการคัน หรือระคายเคืองที่หนังศีรษะได้ หากเราเกามากเกินไปก็อาจจะทำให้ผมขาดร่วง และทำให้รากผมถูกทำลายได้ นอกจากนี้ การเกาจนเกิดสะเก็ดทำให้เป็นแผลเป็น ยังทำให้หนังศีรษะส่วนที่เป็นแผลเป็น ผมไม่ขึ้นถาวรอีกด้วย
เป็นแผลเป็นบนศีรษะ สามารถแก้ไขได้ด้วยการปลูกผมถาวร : ปลูกผมในแผลเป็น
สรุปเรื่องผมร่วง
ผมร่วงเป็นสิ่งที่สามารถสร้างปัญหาได้ตั้งแต่การสร้างความรำคาญใจ ไปจนถึงปัญหาความเครียดจากความไม่มั่นใจเนื่องจากผมบาง หรือศีรษะล้านได้ ดังนั้นหากรู้ตัวว่ากำลังผมร่วงจนผิดปกติ ควรปรับพฤติกรรมของตนเอง หรือพบแพทย์เพื่อรักษา ก่อนที่ผมจะร่วงจนศีรษะล้าน และสายเกินแก้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอคำปรึกษาปัญหาผมร่วง ผมบางกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Absolute Hair Clinic โดยตรง : Line: @Absolutehairclinic