ปลูกผม FUE กับ FUT ต่างกันอย่างไร? แบบไหนดีกว่ากัน? เกณฑ์ในการเลือกวิธีปลูกผมที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจปลูกผม

ผู้ที่สนใจการปลูกผม กำลังหาข้อมูล อาจจะพอรู้มาบ้างว่าการปลูกผมมีสองแบบ คือปลูกผม FUE กับปลูกผม FUT และอาจจะสงสัยว่าปลูกผม FUE กับ FUT ต่างกันอย่างไร? ปลูกผมแบบไหนดีกว่ากัน และมีเกณฑ์ในการเลือกอย่างไรบ้าง

ในบทความนี้ Absolute Hair Clinic จะให้ข้อมูลว่า ปลูกผม FUE คืออะไร ปลูกผม FUT คืออะไร ต่างกันอย่างไร และปลูกผม FUE กับ FUT แบบไหนดีกว่ากัน เพื่อให้ข้อมูลกับคนทั่วไป และเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกผม

เทคนิคปลูกผมถาวรในปัจจุบัน

การปลูกผมถาวรในปัจจุบันจะใช้วิธีการย้ายเซลล์รากผมไปยังตำแหน่งใหม่ ที่เรียกว่าปลูกผมถาวรเป็นเพราะผมที่ย้ายไปปลูก ไม่ได้ย้ายไปแต่เส้นผม แต่เซลล์ต้นกำเนิดผมอย่างเซลล์รากผมยังถูกย้ายไปด้วย 

ดังนั้นหากผมหมดอายุ และร่วงไป ผมในตำแหน่งนั้นก็ยังสามารถงอกใหม่ได้เรื่อยๆอย่างถาวร เพราะยังมีเซลล์รากผมอยู่นั่นเอง

นอกจากนั้น ผมที่นำมาปลูกยังเป็นผมส่วนท้ายทอย หรือหลังกกหู ที่ถูกเรียกว่าเป็นเส้นผมถาวร

อาการผมร่วงจนหัวล้าน ส่วนใหญ่เกิดในผู้ชาย สาเหตุส่วนมากมาจากฮอร์โมน DHT และจะยิ่งรุนแรงมากในผู้ที่หัวล้านกรรมพันธุ์ 

แต่ไม่ว่าผมจะร่วงจากฮอร์โมนมากเท่าไหร่ ผมส่วนท้ายทอย และหลังกกหูจะไม่ร่วงไปด้วย เพราะผมส่วนนี้ไม่มีผลกับฮอร์โมน DHT จึงถูกว่าเส้นผมถาวรนั่นเอง

ในปัจจุบัน การปลูกผมถาวรโดยการย้ายเซลล์รากผม มี 2 วิธีด้วยกัน คือ ปลูกผม FUT กับ FUE

1. ปลูกผม FUT หรือปลูกผมแบบแผลตัดเย็บ Strip FUT (Follicular Unit Transplant)

เป็นวิธีย้ายเซลล์รากผมวิธีแรกที่ได้รับการยอมรับ ใช้กันมาเกือบสามสิบปี และยังนิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูง สามารถรักษาอาการหัวล้านที่ค่อนข้างรุนแรงได้

เมื่อก่อนการปลูกผม FUT ไม่ได้ปลูกทีละกราฟ แต่แพทย์จะปลูกเป็นกระจุก ผลออกมาจึงไม่เป็นธรรมชาติ แต่เทคนิค FUT ก็พัฒนามาเรื่อยๆ จนเป็นการปลูกทีละกราฟอย่างในปัจจุบัน ที่ทำให้ผลการปลูกผมดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิม

กราฟผมคืออะไร? เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกราฟผมที่ใช้สำหรับปลูกผม : กราฟผม

2. ปลูกผม FUE หรือปลูกผมแบบเจาะ (Follicular Unit Excision)

เป็นเทคนิคที่ใหม่กว่าปลูกผม FUT โดยเทคนิคนี้มีจุดเด่นคือไม่สร้างแผลเป็นเท่าแบบ FUT และใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า เป็นวิธีการรักษาที่ยังพัฒนาอยู่เรื่อยๆ จนในปัจจุบันมีหุ่นยนต์สำหรับเก็บกราฟผมแบบ FUE แล้ว

หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่ามีการปลูกผมแบบอื่นๆอีก เช่น ปลูกผม DHI, ปลูกผมผู้หญิง หรือ Celebrity hair FUE ชื่อพวกนี้เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นมาเอง อาจจะเพื่อใช้เรียกวิธีการปลูกผมที่แตกต่างจากการปลูกผมปกติในรายละเอียดย่อยๆ อย่างการใช้ Implanter ในการปลูกผม หรือการใช้กราฟผมที่ยังยาวอยู่ในการปลูกผม

หรือบางครั้งอาจจะตั้งชื่อขึ้นมาใหม่เพื่อการโฆษณา เป็นการสร้างความโดดเด่นทางการตลาดให้กับทางคลินิกเท่านั้น

ในปัจจุบันวิธีปลูกผมที่ได้รับการรับรองจาก ISHRS (The International Society of Hair Restoration Surgery) หรือสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ มีแค่ 2 วิธีคือ ปลูกผม FUE กับ FUT เท่านั้น

ปลูกผม FUT ปลูกผมถาวรประสิทธิภาพสูง

ปลูกผม FUT คืออะไร?

ปลูกผม FUT คือการปลูกผมที่จะย้ายรากผมไปปลูก โดยการตัดหนังศีรษะบางส่วนออกมาพร้อมกับกราฟผมจำนวนมาก จากนั้นจึงนำไปแยกกราฟผมจากกันใต้กล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูง จนได้เป็นกราฟผมที่ใช้สำหรับปลูกผม (Follicular Unit Graft) ออกมา

เมื่อได้กราฟผมแล้ว แพทย์จะปลูกลงไปโดยใช้คีมปลูกผม (Forceps) หรือปากกาปลูกผม (Implanter) ก็ได้ แล้วแต่ความถนัดของแพทย์ แพทย์จะปลูกลงไปในตำแหน่งและทิศทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกราฟผมแต่ละกราฟ เพื่อให้ผมหลังปลูกออกมาสวยงาม และดูเป็นธรรมชาติ เหมือนผมจริงให้ได้มากที่สุด

ความโดดเด่นของการปลูกผม FUT คือ เป็นการปลูกผมที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะกราฟผมที่ได้มาจากการแยกกราฟโดยกล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูง เสียหายน้อยมาก ทั้งยังมีเนื้อเยื่อรอบๆรากผมปกป้องอยู่อีกชั้นหนึ่ง ทำให้กราฟมีความแข็งแรง เมื่อนำไปปลูก ผมก็มีโอกาสขึ้นสูงมาก

ปลูกผม FUT มีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง? ราคาเท่าไหร่ มีความเสี่ยงมากไหม? เจ็บหรือเปล่า? เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการปลูกผม FUT : ปลูกผม FUT คืออะไร? ราคาเท่าไหร่ แตกต่างกับปลูกผมถาวรแบบอื่นอย่างไร?

ปลูกผม FUE แบบเจาะ ไร้แผลเย็บ

ปลูกผม FUE คืออะไร?

ปลูกผม FUE คือการปลูกผมที่จะย้ายรากผมโดยเจาะเอาเฉพาะกราฟผมย้ายไปปลูก โดยไม่ต้องตัดหนังศีรษะออกมา

แพทย์จะเจาะรากผมด้วยเครื่องเจาะไฟฟ้า( Motorized Hand Engine) จากนั้นแพทย์จะดึงกราฟผมออกมาจากหนังหนังศีรษะ แล้วนำไปปลูกเช่นเดียวกับวิธีปลูกผม FUT

จุดเด่นของการปลูกผม FUE คือการปลูกผมไร้แผลเย็บ เนื่องจากเครื่องเจาะที่แพทย์ใช้เจาะกราฟผม หัวเจาะมีขนาดเล็กเพียงแค่ 0.8 – 0.95 มิลลิเมตร ทำให้หลังแผลหายแล้ว จะทิ้งรอยแผลเป็นขนาดเล็กไม่ถึงหนึ่งมิลลิเมตรเท่านั้น หากไม่สังเกตก็จะไม่เห็นเลย

ปลูกผม FUE มีข้อเสียไหม? มีความเสี่ยงอะไรบ้าง? แพงหรือเปล่า? เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการปลูกผม FUE : ปลูกผม FUE คืออะไร? ปลูกผมไร้รอยแผลเป็น แก้ไขปัญหาผมบางอย่างถาวร

เปรียบเทียบข้อดี – ข้อเสีย ปลูกผม FUT Vs ปลูกผม FUE

ข้อดีของการปลูกผม FUT

• กราฟผมคุณภาพดีมาก เพราะในขั้นตอนการแยกกราฟ จะเหลือเนื้อเยื่อและไขมันไว้รอบกราฟ กราฟจึงไม่เสียหายมากนักทั้งในขั้นตอนการเก็บกราฟผม และขณะปลูกผม
• เก็บกราฟผมได้จำนวนมากโดยผมจะไม่บางลง อาจจะเก็บได้มากถึง 4,000 – 10,000 กราฟ
• คลินิกส่วนใหญ่คิดราคาคาปลูกผมถูกกว่าปลูกผม FUE
• ใช้เวลาในการผ่าตัดปลูกผมสั้นกว่า

ข้อจำกัดของการปลูกผม FUT

• จะมีแผลเป็นหลังปลูกผม อยู่ที่ช่วงท้ายทอยหรือหลังกกหู
• หากไว้ผมสั้นมากหรือโกนผม จะเห็นแผลเป็น
• หากปลูกผม FUT เพิ่มในอนาคต แผลเป็นที่ท้ายทอยจะหนาขึ้น
• ผู้ที่หนังศีรษะตึง ไม่ยืดหยุ่น ไม่สามารถทำได้ เพราะจะทำให้แผลเย็บที่ท้ายทอยตึงเกินไป

ข้อดีของการปลูกผม FUE

• แผลหลังการปลูกผมเป็นแผลเล็ก หายเร็ว รอยแผลเป็นแทบมองไม่เห็น
• สามารถเก็บกราฟผมจากขนส่วนอื่นๆในร่างกายได้ เช่น ขนเครา ขนหน้าอก หากผมที่หนังศีรษะมีไม่มากพอ
• ใช้เวลาพักฟื้นน้อย เพราะแผลมีขนาดเล็ก

ข้อจำกัดของการปลูกผม FUE

• เก็บกราฟไม่ได้มาก เพราะหากเก็บมากไปจะทำให้ผมบาง อาจจะเก็บได้เพียง 2,000 – 3,000 กราฟ
• คุณภาพของกราฟไม่ดีเท่าปลูกผม FUT เพราะการเจาะเอาแค่กราฟผม จะทำให้กราฟผมอ่อนแอ ไม่มีไขมันรอบๆกราฟ เสียหายได้ง่ายขณะปลูก (แต่ถ้าปลูกผมกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญ โอกาสที่กราฟผมเสียหายจะลดลง)
• ใช้เวลาผ่าตัดปลูกผมนานกว่าปลูกผม FUT เพราะขั้นตอนการเก็บกราฟใช้เวลาค่อนข้างนาน
• ไม่เหมาะกับผู้ที่ผมช่วงท้ายทอยบางอยู่ก่อนแล้ว

กลัวการปลูกผม ยังไม่อยากผ่าตัดปลูกผมสามารถทำให้ผมกลับมาหนาได้ด้วยการรักษาที่ไม่ต้องผ่าตัด :

• PRP ผม
• ฉีดสเต็มเซลล์ผม
• เลเซอร์ LLLT
• โฟโตน่า เลเซอร์
• ยาแก้ผมร่วง

ค่าใช้จ่าย ปลูกผม FUT กับปลูกผม FUE

ปลูกผม FUE กับ FUT ค่าใช้จ่ายไม่เท่ากัน

มีบ้างที่คลินิกจะคิดราคาของสองเทคนิคนี้ในเรทเดียวกัน แต่ก็น้อยมาก ส่วนใหญ่แล้วจะคิดค่าบริการปลูกผม FUE สูงกว่า เนื่องจากเครื่องมือที่ใช้ราคาค่อนข้างสูงกว่าการปลูกผม FUT ทั้งยังเป็นเทคนิคใหม่ที่แพทย์ต้องชำนาญมากอีกด้วย

โดยปลูกผม FUE คลินิกส่วนใหญ่จะคิดราคาประมาณกราฟละ 60 – 100 บาท ส่วนปลูกผม FUT จะอยู่ที่ประมาณกราฟละ 35 – 70 บาท ราคาต่างกันในแต่ละคลินิกขึ้นอยู่กับค่าแพทย์ ค่าอุปกรณ์ หรือค่าการรักษาควบคู่ที่เสริมมาในคอร์สปลูกผม

ทำไมปลูกผมแต่ละคลินิกราคาไม่เท่ากัน? คลินิกคิดราคาจากอะไรบ้าง? : ปลูกผม ราคาเท่าไหร่ ? ราคาปลูกผม ถูก-แพง ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง

ทรงผมที่อยากทำหลังปลูกผม

ถ้าอยากไว้ผมสั้นมาก หรือโกนผม แต่ไม่อยากให้เห็นแผลเป็น จะเหมาะกับการปลูกผม FUE แต่ถ้าจะไว้ผมยาวเกิน 2 – 3 เซนติเมตรอยู่แล้ว ปลูกผม FUT จะเหมาะกว่า เพราะมีโอกาสปลูกผมขึ้นมากกว่า และสามารถเก็บกราฟได้เยอะกว่า หากผมร่วงเพิ่ม ก็สามารถปลูกผมได้หลายครั้ง

ปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ผมร่วง? : ผมร่วงหนักมาก! ปัญหาผมร่วงที่แก้ไม่หาย วิธีแก้ผมร่วงจากสาเหตุ คำแนะนำจากแพทย์ปลูกผม

ปริมาณของผมที่ท้ายทอย

ถ้าผมท้ายทอยบาง ปลูกผม FUE จะไม่เหมาะนัก เพราะจะทำให้ผมที่ท้ายทอย (Donor Area) บางลง หลังปลูกผมบริเวณที่ผมบางอยู่ก่อนจะหนาขึ้น แต่ผมที่ท้ายทอยจะแหว่ง ดูบางลง ทางที่ดีควรปลูกผม FUT มากกว่า

การปลูกผม FUT จะไม่ทำให้ผมที่ท้ายทอยบางเพราะแพทย์จะตัดผิวหนังออกไปพร้อมกับรากผม จึงไม่ค่อยเหลือตำแหน่งของผิวหนังที่ไม่มีเส้นผมเหมือนกันกับปลูกผม FUE นั่นเอง

ความรุนแรงของอาการศีรษะล้าน

ถ้าผมบาง ศีรษะล้านมากๆ ปลูกผม FUT จะดีกว่า เพราะจะไม่ทำให้ผมบางลง ได้จำนวนกราฟเยอะกว่า การรักษาเห็นผลมากกว่า ถ้าปลูกผม FUE ผมจะยิ่งบาง เก็บกราฟได้น้อยกว่าที่ควรใช้ปลูก

มีเวลาพักฟื้นเท่าไหร่

ถ้ามีเวลาพักฟื้นน้อยหน่อยให้ปลูกผมแบบ FUE เพราะแผลเล็กกว่า ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน แม้จะใช้เวลาผ่าตัดนานกว่าปลูกผม FUT แต่เวลาโดยรวมในการพักฟื้นจะใช้น้อยกว่า บางเคสพักฟื้นแค่วันเดียวก็สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้

ปรึกษาเลือกเทคนิคปลูกผมกับ Absolute Hair Clinic

เพราะการปลูกผมเพื่อรักษาอาการผมร่วง ผมบาง ศีรษะเถิก หัวล้าน เป็นการผ่าตัดที่ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะมีผลต่อรูปลักษณ์ หากทำไม่ดี ไม่เป็นที่พึงพอใจ จะแก้ไขยาก ทั้งยังเป็นการผ่าตัดที่มีความเสี่ยง หากเลือกคลินิกไม่ดีอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้

ที่ Absolute Hair Clinic เราเชี่ยวชาญการปลูกผม FUE กับ FUT อย่างมาก ทุกเคสการรักษา ดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเส้นผมและหนังศีรษะ ที่ได้รับรางวัลระดับโลก และงานวิจัยได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการมากมาย

คลินิกสะอาด ได้มาตรฐานความปลอดภัย ใช้เครื่องมือที่ทันสมัยในการรักษา วิธีการรักษาทั้งหมดที่เลือกใช้ ได้รับการรับรองแล้วจากองค์กรการแพทย์ระดับโลก

ทำให้ผู้เข้ารับการรักษาสามารถมั่นใจได้ว่า ปลูกผมกับ Absolute Hair Clinic จะเห็นผลการรักษาจริง ปลอดภัย มีการติดตามผลระยะยาว ทำให้ผมไม่กลับมาร่วงจนผมบาง หรือศีรษะล้านอีก

รู้จักกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมทั้งผลงานของแพทย์แต่ละท่านจาก Absolute Hair Clinic : 

• นายแพทย์ก้องเกียรติ ลออวงศ์
• รศ.ดร.พญ. รัชต์ธร ปัญจประทีป

คลินิกปลูกผมที่ดี ควรพิจารณาจากอะไรบ้าง? ควรเลือกปลูกผมกับคลินิกแแบบไหน? : ปลูกผมที่ไหนดี ? เคล็ดลับการเลือกคลินิกปลูกผมที่เหมาะสม ก่อนตัดสินใจปลูกผมถาวร

คำถามที่พบบ่อย

สามารถปลูกผมทั้ง 2 วิธีควบคู่กันได้ไหม

สามารถรักษาผมบาง หัวล้านกรรมพันธุ์ หรือหัวเถิกด้วยการปลูกผม FUE กับ FUT ควบคู่กันได้ ไม่ใช่ปลูกพร้อมกัน แต่สามารถปลูกผมผสมกันได้ 

หมายถึง หากปลูกผม FUE ไป ปลูกผมรอบหน้าจะปลูกผม FUE อีก หรือเปลี่ยนไปปลูกผม FUT ก็ได้ ส่วนถ้าปลูกผม FUT มาก่อน ปลูกผมครั้งถัดไปก็สามารถเปลี่ยนไปปลูกแบบ FUE ได้เช่นกัน

การเปลี่ยนวิธีรักษามีหลายเหตุผล อย่างรอบแรกปลูกผม FUE น้อยไป ผมร่วงเพิ่มเยอะขึ้น หากปลูกผม FUE อีก ผมที่ท้ายทอยจะบาง ปลูกผมรอบสองจึงปลูกผม FUT แทน หรือรอบแรกอาจจะปลูกผม FUT มาแล้ว ผมร่วงเพิ่มเล็กน้อย สามารถเติมให้ผมหนาขึ้นด้วยปลูกผม FUE ก็ได้เช่นกัน

การปลูกผมใช้เวลาเท่าไหร่

ปลูกผม FUE กับ FUT ในจำนวนกราฟที่เท่ากัน จะใช้เวลาไม่เท่ากัน

การปลูกผม FUT จะใช้เวลาประมาณ 3 – 6 ชั่วโมง ส่วนปลูกผม FUE จะใช้เวลาประมาณ 4 – 8 ชั่วโมง หรืออาจจะมากกว่านั้น

ทั้งนี้เวลาที่ใช้ในการปลูกผมจะขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟที่ปลูกเป็นหลัก ยิ่งใช้กราฟเยอะ ก็ยิ่งใช้เวลานาน เพราะแพทย์ต้องปลูกกราฟผมลงไปทีละกราฟจนกว่าจะครอบคลุมพื้นที่

ปลูกผมแบบไหนเห็นได้ผลดีกว่ากัน

แม้การปลูกผม FUT จะมีประสิทธิภาพมากกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีการปลูกผมที่ดีกว่า มีเพียงการปลูกผมที่เหมาะกับผู้เข้ารับการรักษามากกว่าเท่านั้น

เพราะปลูกผม FUT แม้จะมีประสิทธิภาพมาก แต่ก็มีข้อเสียอยู่มาก อย่างการทิ้งรอยแผลเป็นไว้ ส่วนการปลูกผม FUE แม้จะดีที่ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น แต่ก็สามารถปลูกจำนวนกราฟได้น้อย และทำให้ผมที่ท้ายทอยบางลง

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าตนเองเหมาะกับวิธีไหนมากกว่า? 

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นคนแนะนำให้ว่า อาการแบบนี้ ควรรักษาด้วยวิธีไหนจะเห็นผลมากกว่า หรือถ้าทำได้ทั้งสองวิธี แพทย์จะแนะนำข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธีให้ เพื่อให้ผู้เข้ารับการรักษาเลือกสิ่งที่พึงพอใจมากที่สุด

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat.

ข้อสรุป ปลูกผม FUE กับ FUT แบบไหนดีกว่ากัน

ปลูกผม FUE กับ FUT แยกออกจากกันตามวิธีย้ายเซลล์รากผม ปลูกผม FUE มีจุดเด่นที่ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น แต่ก็มีข้อเสียคือได้กราฟจำนวนไม่มาก ส่วนปลูกผม FUT มีประสิทธิภาพสูง แต่ก็ทิ้งรอยแผลเป็นยาวไว้ที่หนังศีรษะ

ดังนั้นไม่มีวิธีปลูกผมแบบไหนดีกว่ากัน ทั้งสองแบบมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แพทย์จะเป็นผู้แนะนำให้ว่าปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะเถิกของคุณเหมาะกับการรักษาแบบใด

กำลังลังเลว่าจะปลูกผมแบบไหนดี ต้องการคำแนะนำจากแพทย์ผู้ปลูกผม สามารถทักเข้ามาปรึกษา หรือส่งรูปศีรษะเพื่อการประเมินเบื้องต้นเข้ามาได้ที่ Line: @Absolutehairclinic