ไขข้อสงสัย! ปลูกผมผู้หญิง ราคาเท่าไหร่ ? มีขั้นตอนอย่างไร ? แตกต่างกับปลูกผมผู้ชายไหม

คุณผู้หญิงท่านไหนที่กำลังผมร่วง ผมบาง ศีรษะเถิก จากทั้งกรรมพันธุ์ โรคต่างๆ หรือเป็นมาตั้งแต่กำเนิด จนสร้างความไม่มั่นใจให้กับคุณ ไม่อยากพบปะผู้คน ไม่กล้าถอดหมวก ทำให้เครียดซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ทำให้ผมร่วงได้มากกว่าเดิม เราอยากแนะนำให้คุณปลูกผมผู้หญิงกับเรา

เนื่องจากอาการผมร่วงเป็นได้ทั้งชายและหญิง แต่สาเหตุและลักษณะอาการต่างกัน การรักษาจึงต่างกัน แต่ปลูกผมผู้หญิงคืออะไร ? แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ? ปลูกผมผู้หญิงที่ไหนดี ? ราคาเท่าไหร่ ? วันนี้เรามีคำตอบให้กับคุณ

Absolute Hair Clinic คลินิกปลูกผมผู้หญิงโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ : Absolute Hair Clinic (Home)

ปลูกผมผู้หญิง คืออะไร

ปลูกผมผู้หญิง (Female Hair Transplant) คือการปลูกผมในผู้หญิงซึ่งส่วนใหญ่ใช้แก้ปัญหาศีรษะเถิก ปรับกรอบหน้า หรือปิดแผลเป็นที่ศีรษะ ซึ่งจะต่างกับผู้ชายที่ใช้เพื่อแก้ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากสาเหตุของอาการผมร่วง ผมบางในผู้หญิง ต่างกับในผู้ชาย

ปัญหาผมบางที่พบในผู้หญิง

ปัญหาผมบางในผู้หญิง สามารถพบได้ดังนี้

• ศีรษะเถิก หน้าผากสูง ต้องการปลูกผมด้านหน้า บางครั้งอาจเป็นการเพิ่มไรผม หรือแก้กรอบหน้าบางส่วนโดยการปลูกผมเพิ่ม
• ผมบางทั้งศีรษะ
• ผมบางเป็นหย่อม
• ผมหายบางส่วนเนื่องจากแผลเป็น
• ผมร่วงเนื่องจากผลข้างเคียงของยา หรือโรคบางอย่า

ส่วนใหญ่แล้วปัญหาผมบางในผู้หญิงมักจะแก้ไขด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่ปลูกผมถาวร เนื่องจากถ้าผมไม่ได้บางมาก ปลูกผมไปอาจจะทำให้หนังศีรษะช้ำจนทำให้ผมร่วงมากกว่าเดิมได้ แต่ถ้าผมที่กลางศีรษะร่วงมาก แพทย์จะแนะนำให้ปลูกผมกลางหัวผู้หญิง

แต่ถ้าเป็นปัญหาเกี่ยวกับผมด้านหน้า เช่นศีรษะเถิก หน้าผากสูง การแก้แนวผม เพิ่มไรผม การปลูกผมปิดแผลเป็นที่แนวผม หรือปลูกผมลงในแผลเป็น แพทย์ก็จะแนะนำให้ปลูกผมหน้าผากผู้หญิง เพราะจะเห็นผลหลังทำเลย และไม่มีความเสี่ยงที่ผมจะร่วงในระยะยาว

ปลูกผมผู้หญิงแตกต่างกับปลูกผมผู้ชายอย่างไร

เราจะแบ่งการปลูกผมผู้หญิงออกเป็นสองกรณี เพื่อพูดถึงความแตกต่างของการปลูกผมผู้หญิง และการปลูกผมผู้ชายในแต่ละกรณี ซึ่งจะแยกเป็น 2 แบบ ดังนี้

1. การปลูกผมผู้หญิงเพื่อรักษาอาการผมร่วง ผมบาง

ปลูกผมผู้หญิงเพื่อแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางแตกต่างจากการปลูกผมผู้ชายมาก เนื่องจากสาเหตุส่วนใหญ่ที่ผู้ชายผมร่วง เกิดจากฮอร์โมนเพศที่ชื่อว่า DHT ส่วนผมร่วงในผู้หญิงจะเกิดจากกรรมพันธุ์

ผมร่วงจากกรรมพันธุ์ในผู้หญิงจะแก้ยากกว่าในผู้ชาย เพราะในผู้ชายมีผมส่วนหลังกกหู และส่วนท้ายทอยที่ถูกเรียกว่าเป็นเส้นผมถาวร เนื่องจากไม่มีผลกับฮอร์โมน DHT แม้ผมเส้นอื่นจะร่วงเพราะฮอร์โมน แต่เส้นผมถาวรดังกล่าวจะไม่ร่วง ทำให้สามารถนำผมถาวรมาปลูกในส่วนที่ผมร่วงไปแล้วได้

แต่ในผู้หญิงจะไม่มีส่วนที่ถูกเรียกว่าเส้นผมถาวร เพราะแม้ผมส่วนท้ายทอยจะเป็นส่วนที่เส้นผมแข็งแรงที่สุดบนศีรษะ แต่ผมส่วนท้ายทอยของผู้หญิงก็สามารถร่วง และบางลงจากปัญหาพันธุกรรมได้เช่นกัน ทำให้เมื่อผมบาง และต้องการปลูกผมที่หน้าผาก หรือปลูกผมกลางหัว ผมท้ายทอยที่นำมาปลูกก็อาจจะเส้นเล็กและอ่อนแอเกินไป ในระยะยาวผมที่ปลูกก็อาจจะร่วงได้

การปลูกผมเพื่อแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางในผู้หญิงจึงนิยมทำกันในเคสที่รุนแรงเท่านั้น เช่นผมบางที่กลางศีรษะจนเห็นได้ชัด ถ้าไม่รุนแรงจริงแพทย์จะไม่แนะนำให้ปลูกผม เพราะอาจจะทำให้ผมร่วงได้มากกว่าเดิม แพทย์จะแนะนำให้ทำPRP ผม, ฉีดสเต็มเซลล์ผม, เลเซอร์ LLLT, โฟโตน่า เลเซอร์, หรือการใช้ยาแก้ผมร่วงมากกว่า และวิธีการเหล่านี้ก็สามารถทำร่วมกับการปลูกผมได้ด้วยเช่นกัน

2. การปลูกผมผู้หญิงเพื่อแก้ไขแนวผม รูปหน้า และปิดแผลเป็น

การปลูกผมผู้หญิงเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เป็นสิ่งที่แพทย์แนะนำให้ทำอย่างมาก ต่างจากของผู้ชาย เนื่องจากในผู้หญิง ถ้าไม่ได้มีอาการของการผมร่วงพันธุกรรม ผมที่ปลูกไปจะไม่ร่วง ไม่บาง ผมในส่วนอื่นๆ ก็ไม่ร่วงเช่นกัน ทำให้ผมการปลูกผมจะอยู่อย่างถาวร ไม่ต้องใช้ยารักษาอาการผมร่วงผมบาง หรือการรักษาอื่นๆเพิ่มเติม

ส่วนการปลูกผมเพื่อแก้ไขแนวผมด้านหน้าในผู้ชายมักเกิดจากการอาการเริ่มต้นของปัญหาศีรษะล้าน และผมจะร่วงไปเรื่อยๆ ถึงแม้เคยปลูกผมมาแล้ว

หลังปลูกผม ผมที่ปลูกใหม่จะอยู่ถาวร แต่ผมส่วนอื่นๆบนศีรษะก็ร่วงได้อยู่ดี หลังปลูกผมจึงยังต้องพึ่งการรักษาแบบอื่นร่วมด้วย เพื่อให้ผมส่วนอื่นๆ ไม่ร่วงจนบางอีก

เรื่องการปลูกผม ลักษณะผมด้านหน้าที่ปลูกก็จะต่างกันไป ของผู้ชายจะนิยมปลูกเป็นตอสั้นๆ เป็นการปลูกผม FUE หรือการปลูกผม FUT แบบปกติ ที่จะต้องมีการตัดผมให้สั้นก่อนย้ายรากผม

ส่วนปลูกผมผู้หญิงจะนิยมปลูก Long Hair FUE และ Non shaven FUE เนื่องจากเป็นการปลูกผมที่ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นให้หนังศีรษะส่วนท้ายทอย และผมก็จะเป็นผมยาวทันทีหลังปลูก

ในกรณีที่เป็นผู้หญิงข้ามเพศ (Transgender woman) หากยังไม่ได้แปลงเพศและยังมีฮอร์โมนเพศชายอยู่ อาจจะต้องทำการรักษาแบบผู้ชาย แต่การออกแบบไรผม หรือเทคนิคที่ใช้ จะใช้แบบผู้หญิง แต่ถ้าแปลงเพศแล้ว ไม่มีฮอร์โมนเพศชายแต่ยังผมร่วงอยู่ แพทย์จะวินิจฉัยหาสาเหตุ แล้วรักษาตามอาการต่อไป

เทคนิคการปลูกผมผู้หญิง

เทคนิคการปลูกผมผู้หญิงที่นิยมทำกันมี 2 วิธี คือ Strip FUT และ FUE โดยทั้งสองวิธีเป็นการปลูกผม โดยการนำกอรากผมออกมาจากศีรษะช่วงท้ายทอย หรือหลังกกหู แล้วนำมาปลูกกลับเข้าไปใหม่ในที่ที่ต้องการปลูก แต่สองทั้งวิธีมีความแตกต่างกัน และมีข้อดีข้อเสีย ดังนี้

ปลูกผมผู้หญิง เทคนิค Strip FUT

ปลูกผมผู้หญิงด้วย Strip FUT คือวิธีปลูกผม ที่จะนำกอรากผมออกมาพร้อมกับหนังศีรษะชั้นบนบางส่วน แล้วนำชิ้นส่วนนั้นไปตัดแยกกอรากผมออกจากกันใต้กล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูง ก่อนนำมาปลูกลงไปในตำแหน่งใหม่

วิธีนี้มีข้อดีคือ กอรากผมที่ได้มีความแข็งแรงมาก ทำให้มีโอกาสปลูกติดได้สูง นิยมทำกันในผู้ที่มีผมบาง เพราะวิธีนี้จะไม่ทำให้ผมส่วนท้ายทอยดูน้อยลง

ส่วนข้อเสียคือวิธีนี้ต้องตัดหนังศีรษะออกบางส่วน ทำให้เมื่อปลูกผมเสร็จจะกลายเป็นแผลเป็นเล็กๆที่ท้ายทอย ถ้าไม่ได้จะโกนผม หรือตัดผมสั้นจนเกือบติดหนังศีรษะก็จะมองไม่เห็น ในผู้หญิงที่ต้องการไว้ผมยาวอยู่แล้ว รอยแผลที่ท้ายทอยก็จะไม่ได้มีปัญหาอะไร

ปลูกผมผู้หญิง เทคนิค Long hair FUE

ปลูกผมผู้หญิงด้วยเทคนิค Long Hair FUE เป็นการปลูกผม ที่จะนำกอรากผมออกมาโดยการเจาะด้วยเครื่องเจาะไฟฟ้า เพื่อให้ได้แค่เฉพาะตัวกอรากผมออกมา ก่อนจะนำกอรากผมเหล่านั้นไปปลูก

ข้อดีของเทคนิค Long Hair FUE คือเมื่อปลูกผมเสร็จ ผมจะยาวเลย เพราะในขั้นตอนการเจาะรากผม แพทย์จะเจาะรากผมออกมาทั้งที่ยังไม่ได้ตัดผมให้สั้น และนำไปปลูกทั้งอย่างนั้นเลย ทำให้ผมที่ปลูกจะไม่เป็นตอแบบ Strip FUT

อีกทั้งหลังปลูกยังได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากกว่าด้วย เนื่องจากผมที่ยาวจะทำให้แพทย์ดูทิศทางผมได้ง่ายกว่า ทำให้คัดเลือกผมที่เหมาะกับตำแหน่งนั้นๆได้ง่าย นอกจากนี้ขั้นตอนผ่าตัดยังไม่ทำให้เกิดแผลเป็นด้วย เนื่องจากแผลจากการเจาะรากผมจะมีขนาดเพียงไม่ถึง 1 มิลลิเมตร เมื่อแผลหายก็จะไม่เห็นรอยอะไรเลย

แต่เทคนิค Long Hair FUE เองก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน คือใช้เวลาทำนาน และทำยากกว่า ทำให้เรทราคาของการปลูกผมจะแพงกว่าแบบแรก ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผมส่วนท้ายทอยบาง เพราะจะทำให้ผมบางกว่าเดิมจนเห็นได้ชัด นอกจากนี้ผมยาวยังดูแลยากกว่า อาจจะทำให้รากผมที่ปลูกลงไปหลุดออกได้ง่าย เป็นสาเหตุให้ผมบางส่วนปลูกไม่ขึ้นอีกด้วย

ทั้งนี้ผู้เข้ารับการรักษาจะเหมาะกับการปลูกผมแบบใด ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการรักษาที่ดีที่สุดต่อไป

ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปลูกผมถาวรแต่ละแบบ FUE และ FUT ต่างกันอย่างไร ? :
ปลูกผม FUE
ปลูกผม FUT
ข้อแตกต่าง FUE Vs FUT

ปลูกผมผู้หญิง มีข้อดีอย่างไร

• แก้ปัญหาศีรษะเถิกโดยกำเนิด
• ปกปิดรอยแผลเป็นจากอุบัติเหตุหรือการผ่าตัดบนหนังศีรษะ
• แก้ปัญหาผมบางขั้นรุนแรง
• ช่วยให้ผมดูหนาขึ้น
• สร้างกรอบหน้า ทำให้หน้าดูเล็กลงโดยไม่ต้องศัลยกรรมผ่าตัดกราม ทุบหน้า ที่มีความเสี่ยงมากกว่าการปลูกผม
• แก้ไขแนวผมให้ดูดีมากขึ้น อาจจะให้สมมาตรมากขึ้น
• สร้างไรผมที่ดูเป็นธรรมชาติ
• สร้างความมั่นใจให้ผู้ที่ทำ กล้าเข้าสังคมมากขึ้น

ข้อจำกัดสำหรับการปลูกผมผู้หญิง

• ผู้มีปัญหาผมบางขั้นเริ่มต้น แพทย์ไม่แนะนำให้ทำ
• ไม่สามารถแก้อาการผมบางได้อย่างถาวร
• ไม่สามารถทำได้ หากผมที่ท้ายทอยบาง และไม่แข็งแรงเพียงพอ
• การผ่าตัดใช้เวลาทั้งวัน และยังต้องมีวันพักฟื้นหลังผ่าตัดอย่างน้อย 1 วัน ดังนั้นหากต้องการปลูกผมจึงควรมีเวลาว่างติดกันอย่างน้อย 2 วัน
• ผู้ที่จะปลูกผมแบบ FUT ต้องมีศีรษะที่ยืดหยุ่นพอสมควร
• หากกำลังรักษาโรคบนหนังศีรษะ หรือมีอาการติดเชื้อที่หนังศีรษะ แพทย์จะยังไม่แนะนำให้ทำ เพราะจะต้องรักษาให้หายก่อน

ปลูกผมผู้หญิง เหมาะกับใครบ้าง

• ผู้ที่มีอาการผมร่วง ผมบางจากพันธุกรรมขั้นรุนแรง
• ผู้ที่แนวผมอยู่สูง ศีรษะเถิกแต่กำเนิด
• ผู้ที่ต้องการปลูกผมเพื่อปิดบังรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด อุบัติเหตุ หรือโรคบางอย่าง
• ผู้ที่ต้องการแก้ไขกรอบหน้า ให้หน้าดูเล็กลง

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดปลูกผมผู้หญิง

• แจ้งแพทย์ทุกครั้ง หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่ต้องทานประจำ
• 1 สัปดาห์ก่อนการปลูกผม ให้หยุดยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น พลาวิกซ์ (Plavix), แอสไพริน (Aspirin), วิตามินอี (Vitamin E), น้ำมันปลา (Fish oil), โสม, แปะก๊วย หรือสมุนไพรอื่นๆ รวมทั้งยาปลูกผมที่มีตัวยา Minoxidil ด้วย
• 1 สัปดาห์ก่อนการปลูกผมผู้หญิง ถ้าที่เป็นโรคความดันสูง และกำลังใช้ยา Beta Blocker ต้องแจ้งแพทย์ประจำเพื่อเปลี่ยนยาก่อนผ่าตัด
• 48 ชั่วโมงก่อนการปลูกผม ให้งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
• หากต้องการย้อมสีผม ดัดผม หรือยืดผม ให้ทำก่อนวันผ่าตัด 1 วัน
• พักผ่อนอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
• คืนก่อนการผ่าตัด และเช้าวันผ่าตัดให้สระผมด้วย Betadine scrub หรือ Hibitane scrub ที่ทางคลินิกให้มา
• ในวันผ่าตัดปลูกผม ให้สวมเสื้อผ่าหน้า หรือเสื้อที่หลวมใส่สบาย เนื่องจากหลังผ่าตัดไม่ควรสวมเสื้อที่ต้องกระทบศีรษะบริเวณที่ผ่าตัดเมื่อสวมเข้าหรือถอดออก
• งดดื่มชาและกาแฟก่อนการปลูกผม
• ควรมีผู้ดูแลมาด้วยในวันปลูกผม เนื่องจากต้องใช้ยานอนหลับในระหว่างผ่าตัด ทำให้มีอาการสะลึมสะลือได้ ไม่ควรขับรถเอง

ขั้นตอนการผ่าตัดปลูกผมผู้หญิง

1. แพทย์จะออกแบบและวาดแนวผมที่ต้องการปลูกร่วมกับผู้เข้ารับการปลูกผม แพทย์จะเป็นผู้แนะนำว่ารูปหน้าแบบนี้ เหมาะกับแนวผมแบบไหน หรือถ้ามีแบบที่ชอบมาอยู่แล้ว ก็สามารถแจ้งแพทย์ได้เช่นกัน
2. หากเป็นการปลูกผมแบบ Strip FUT แพทย์จะตัดผมส่วนท้ายทอยบางส่วนให้สั้นเพื่อเตรียมผ่าตัด แต่ถ้าปลูกผมด้วยเทคนิค Long hair FUE หรือ Non shaven FUE แพทย์จะแค่รวบผมบางส่วนเท่านั้น ไม่ต้องตัดผมออกเลยหรือเล็มออกบางส่วน
3. เมื่อเริ่มผ่าตัด แพทย์จะฉีดยาชาในบริเวณท้ายทอยที่เลือกผมไว้ เมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะเริ่มเจาะกอรากผมออกมาด้วยเครื่องเจาะไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง (Trivellini) สำหรับแบบ Long hair FUE
4. ระหว่างที่รากผมอยู่ภายนอกร่างกาย แพทย์จะเก็บรักษากอรากผมด้วยน้ำยาแบบเดียวกับการปลูกถ่ายอวัยวะสำคัญ เพื่อให้เซลล์รากผมอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดก่อนจะปลูกกลับเข้าไปในร่างกาย
5. เมื่อถึงขั้นตอนการปลูกผม แพทย์จะปลูกกอรากผม หรือกอรากผมที่เป็นผมยาว (Long hair) ด้วยเครื่องมือที่เรียกว่าปากกาปลูกผม (Implanter) เพื่อให้รากผมช้ำน้อยที่สุด เมื่อปลูกเสร็จก็จะมีโอกาสในการปลูกติดมากขึ้น

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดปลูกผมผู้หญิง

การดูแลตัวเองหลังการปลูกผมผู้หญิงเป็นเรื่องสำคัญมาก เนื่องจากหากไม่ทำตามคำแนะนำ กอรากผมที่ปลูกไว้อาจจะหลุดออกได้ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผมไม่ขึ้นหลังปลูกผม โดยการดูแลตนเอง ควรทำตามคำแนะนำต่อไปนี้

1. หลังการผ่าตัด 24 ชั่วโมง ไม่ควรจับ หรือยุ่งกับแผล เพราะรากผมยังไม่เชื่อมติดกับหลังศีรษะในตำแหน่งใหม่ หากสัมผัสแผลมากไปอาจทำให้รากผมหลุดออกได้ ยิ่งกอรากผมที่ปลูกเป็นผมยาวด้วยแล้ว ยิ่งต้องระวังในการปัดผม หวีผม หรือสางผมด้วย
2. เมื่อครบ 1 วัน แพทย์จะให้สระผมเพื่อทำความสะอาดแผล ที่ Absolute hair clinic จะมีบริการสระผมที่คลินิกโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญใน 4 วันแรกหลังปลูกผม จากนั้นเจ้าหน้าที่จะสอนวิธีการสระผมเพื่อให้กลับไปดูแลตัวเองต่อที่บ้าน โดยขั้นตอนการสระผมอย่างละเอียดมีดังนี้
   • ใช้น้ำอุณหภูมิปกติล้างแผลเบาๆ อย่าให้น้ำกระทบแผลโดยตรงเพราะอาจทำให้รากผมหลุดออกได้
   • บีบยาสระผมลงบนฝ่ามือแล้วขยี้ยาสระผมจนเป็นฟอง ใช้ฟองจากผ่ามือแตะเบาๆที่แผล แล้วทิ้งไว้ 2 – 3 นาทีให้สิ่งสกปรกละลายออกมาเอง ห้ามถูหรือขยี้ที่หนังศีรษะบริเวณที่เพิ่งปลูกผมมาเด็ดขาด
   • ล้างออกด้วยน้ำอุณหภูมิห้องเบาๆ
   • ทำให้ผมแห้งโดยการซับเบาๆ หรือใช้ไดร์เป่าได้แต่ต้องเบาที่สุด และใช้ลมเย็นเท่านั้น
   • ผมส่วนอื่นๆสามารถสระ เกา ขยี้ หรือเป่าแห้งได้ตามปกติ แต่ต้องระวังอย่าถูแผลที่ท้ายทอยแรงจนเกินไป เพราะอาจทำให้แผลช้ำ หรือทำให้ปมของด้ายเย็บแผลหลุดได้
   • สามารถสระผมได้ตามปกติหลังจากปลูกผม 1 เดือน
   • สามารถหวีผมได้ตามปกติ แต่ต้องระวังผมยาวในส่วนที่เพิ่งปลูก ถ้าหวีแรงเกินไปรากผมอาจหลุดออกมาได้
3. หลังปลูกผมควรนอนหงายหรือนอนตะแคง เพื่อไม่ให้ส่วนที่ปลูกผมถูกับหมอน และไม่ให้แผลที่ท้ายทอยถูกกดทับ
4. ควรนอนหมอนสูง เพื่อป้องกันไม่ให้แผลบวมหรือเลือดออก
5. ระวังอย่าให้ของแข็งกระทบกับส่วนที่เพิ่งปลูกผม เพราะจะทำให้กอรากผมหลุดออกมาได้
6. ห้ามก้มตัวหยิบของ ให้ย่อตัวลงแทนเพื่อป้องกันไม่ให้เลือดลงศีรษะมากเกินไปจนเลือดดันรากผมออกมา
7. งดอยู่ในที่แจ้ง ที่ชุมชน หรือที่ที่มีฝุ่นควันมาก
8. ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่หลังปลูกผม 48 ชั่วโมง
9. งดออกกำลังกาย 1 สัปดาห์
10. งดว่ายน้ำและซาวน่า 1 เดือน
11. อาการบวมเป็นเรื่องปกติและสามารถหายเองได้ในไม่กี่วัน
12. เมื่อแผลเริ่มสมานอาจจะคันได้ ไม่ควรเกา ให้ใช้การแตะเบาๆหรือทายาแทน

ปลูกผมผู้หญิง ราคาเท่าไหร่

ปลูกผมผู้หญิงราคาเท่าไหร่ ? ถ้าเป็น Long hair FUE ราคาจะอยู่ที่ประมาณหลักแสนบาท มีตั้งแต่แสนต้นๆ ไปจนถึงสองถึงสามแสน ขึ้นอยู่กับเรทราคาของแต่ละคลินิก เพราะปลูกผม Long hair FUE ทำยากกว่าการปลูกผมแบบอื่นๆ บางที่ก็จะคิดเป็นราคาต่อกราฟท์ เรทจะอยู่ที่ประมาณ 100 – 150 บาทต่อกราฟท์

กราฟคืออะไร ? ทำไมต้องคิดราคาปลูกผมผู้หญิงตามจำนวนกราฟท์? แล้วการคิดราคาของแต่ละคลินิกมีปัจจัยใดบ้าง ? อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ราคาปลูกผม

ปลูกผมผู้หญิง ใช้กี่กราฟท์

ปลูกผมผู้หญิง ในแต่ละบริเวณจะใช้จำนวนกราฟท์ที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะพิจารณาจากพื้นที่ในบริเวณนั้น และจำนวนผมในบริเวณนั้นที่มีอยู่เดิม โดยมีเกณฑ์คร่าว ๆ ดังนี้

• ปลูกผมกรอบหน้า ตั้งแต่หน้าผากลงมาจนถึงจอน จะใช้ประมาณ 2000-2500 กราฟท์
• ปลูกผมหน้าผากผู้หญิง เพื่อปรับแนวผมให้ต่ำลง จะใช้ประมาณ 1200-2000 กราฟท์
• ปลูกผมกลางศีรษะ ในกรณีที่ผมบางค่อนข้างรุนแรง จะใช้ประมาณ 2000-3000 กราฟท์

ทั้งนี้จำนวนกราฟท์ดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณคร่าวๆเท่านั้น เพราะแค่ละเคสจะใช้จำนวนกราฟท์ไม่เท่ากัน หากอยากทราบจำนวนกราฟท์ที่ต้องปลูกแบบเป็นตัวเลขชัดๆ หรืออยากทราบราคา ก็สามารถส่งรูปมาสอบถามกับทาง Absolute Hair Clinic ได้โดยตรงที่ Line: @Absolutehairclinic

รีวิว ปลูกผมผู้หญิง

หลังการปลูกผมผู้หญิง ถ้าไม่ใช่การปลูกผมเพื่อรักษาอาการผมร่วง ผมบาง ผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่กับคุณอย่างถาวร เนื่องจากผู้หญิงมีปัจจัยน้อยมากที่ทำให้ผมร่วง อีกทั้งส่วนที่ย้ายไปปลูกยังเป็นส่วนของรากผม เมื่อผมที่ปลูกร่วงไป ผมก็ยังสามารถขึ้นใหม่ได้ตามปกติ

รีวิวปลูกผมผู้หญิง ผลงานการปลูกผมผู้หญิงจาก Absolute Hair Clinic

ดูรีวิวเพิ่มเติม จากการปลูกผมที่ Absolute Hair Clinic : รีวิวปลูกผม Absolute Hair Clinic

ปลูกผมผู้หญิง ที่ไหนดี

การจะปลูกผมผู้หญิงที่ไหนดีนั้น ไม่มีคำตอนที่ตายตัว เนื่องจากแต่ละคลินิกมีแนวทางการรักษาที่แตกต่างกันไป แต่ผู้ที่สนใจก็ควรศึกษาข้อมูลของคลินิกนั้นๆให้ดี ว่าน่าเชื่อถือขนาดไหน ได้มาตรฐานหรือไม่ แพทย์ที่ปลูกผมเป็นแพทย์เชี่ยวชาญจริงหรือเปล่า

Checklist พิจารณาคลินิกปลูกผม ปลูกผมที่ไหนดีที่สุด! : ปลูกผมที่ไหนดี

หากยังไม่มีที่ไหนในใจ ให้ Absolute Hair Clinic เป็นตัวเลือกคลินิกปลูกผมผู้หญิงให้กับคุณ

• Absolute Hair Clinic มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเส้นผมและหนังศีรษะ ที่จะคอยบริการคุณ
• แพทย์ปลูกผมเองทุกเคส ไม่ปล่อยให้ทีมงานทำเอง
• ออกแบบแนวผมอย่างเชี่ยวชาญ เพื่อให้เข้ากับใบหน้าของคุณ และทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาถูกใจคุณให้มากที่สุด
• ผ่าตัดทุกเคสด้วยอุปกรณ์ที่สะอาด ปลอดเชื้อ ได้มาตรฐาน
• รักษาทุกเคสด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองจากทั้งในไทยและต่างประเทศ ให้คุณมั่นใจได้ว่าปลูกผมกับเราจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

รู้จักกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมทั้งผลงานของแพทย์แต่ละท่านจาก Absolute Hair Clinic :

• นายแพทย์ก้องเกียรติ ลออวงศ์
• รศ.ดร.พญ. รัชต์ธร ปัญจประทีป

คำถามที่พบบ่อย

ปลูกผมผู้หญิง ผลลัพธ์อยู่ถาวรไหม

ปลูกผมผู้หญิง ถ้าไม่ใช่การปลูกผมแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางจากพันธุกรรม ผมจะอยู่อย่างถาวร เนื่องจากผู้หญิงจะไม่มีปัจจัยอื่นๆให้ผมร่วงได้มากอย่างผู้ชาย แม้จะไม่มีแนวผมถาวร แต่ผมท้ายทอยที่นำมาปลูกก็จะสามารถอยู่ได้อย่างถาวรเช่นกัน

แต่ถ้าเป็นการปลูกผมเพื่อแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางในผู้หญิง ผมอาจจะไม่อยู่ถาวร เนื่องจากหากเป็นการผมร่วงจากพันธุกรรม ผมของผู้หญิงสามารถร่วงได้ทั้งศีรษะแม้กระทั่งผมที่ท้ายทอย ทำให้ไม่สามารถใช้ผมที่ท้ายทอยในการปลูกผมถาวรได้

ทั้งนี้ ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงผมบางจากพันธุกรรมสามารถใช้วิธีการรักษาอื่นได้ ที่ไม่ใช่การปลูกผม เพื่อเป็นการบำรุงให้ผมที่ยังมีอยู่เส้นใหญ่ขึ้น หนาขึ้น และขาดร่วงน้อยลง จนผมดูหนาขึ้นได้

ปลูกผมผู้หญิง ใช้เวลาเท่าไหร่

ปลูกผมผู้หญิง ถ้าเป็นแบบ Long hair FUE จะใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงขึ้นไป เนื่องจากผมยาวทำให้ยากในการผ่าตัด จึงทำให้ใช้เวลานานกว่าการปลูกผมปกติ ส่วนระยะเวลาการฟื้นตัวรอให้ผมขึ้น จะใช้เวลาประมาณ 3 – 4 เดือนเหมือนการปลูกผมปกติ

ปลูกผมผู้หญิง เจ็บไหม

ปลูกผมผู้หญิง ไม่เจ็บเลย เนื่องจากแพทย์จะใช้ยาชา และยานอนหลับในการปลูกผม เพื่อให้ผู้เข้ารับการรักษาไม่เจ็บ แม้ยาจะหมดฤทธิ์แล้วจะมีอาการปวดก็ตาม แต่จะปวดไม่มาก แพทย์จะจ่ายยาแก้ปวดให้ ทานยาเพียงไม่กี่วันอาการปวดจะหายไปเอง

ปลูกผมผู้หญิง ต้องพักฟื้นไหม

ปลูกผมผู้หญิง ผู้ที่ปลูกผมต้องพักฟื้นประมาณ 1 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้ผมที่ปลูกหลุดออก วันที่สองผมจะติดกับที่มากขึ้น มีสะเก็ดแผลคอยป้องกัน ทำให้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องระวังไม่ให้ผมที่ปลูกหลุดออก

ส่วนการพักของผมนั้น จะใช้เวลาประมาณ 3 – 4 เดือน โดยใน 3-4 สัปดาห์แรก ผมที่ปลูกจะค่อยๆร่วงออก และรากผมจะเข้าสู่ระยะพัก เพื่อให้เซลล์ฟื้นฟูตัวเอง เตรียมพร้อมที่จะงอกผมใหม่อีกครั้ง หลังจากนั้น 3 – 4 เดือนผมก็จะค่อยๆงอกออกมาเหมือนผมปกติ

สรุปเรื่องปลูกผมผู้หญิง

ปลูกผมผู้หญิงเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ตามปกติเหมือนกับผู้ชาย เพราะแม้ผู้หญิงจะไม่ได้ผมร่วงมากเท่าผู้ชาย แต่ปัญหาผมของผู้หญิงก็ควรได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้องเช่นกัน ผู้หญิงบางคนอาจมองว่าการเข้าคลินิกปลูกผมเป็นเรื่องน่าอาย แต่เราอยากให้มองว่าการผมร่วง หรือแนวผมไม่ใช่แบบที่ชอบเป็นเรื่องปกติ ที่สามารถแก้ไขเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ตนเองได้

ทั้งนี้หากสนใจ สามารถติดต่อกับทาง Absolute Hair Clinic ได้โดยตรง เราพร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะของคุณ : Line: @Absolutehairclinic