รังแคเยอะ เป็นปัญหากวนใจของใครหลาย ๆ คน เพราะนอกจากจะทำให้ดูบุคลิคภาพไม่ดี ไม่น่ามอง เสียความมั่นใจในตนเองแล้วยังทำให้เกิดอาการคันหนังศีรษะ และหากปล่อยไว้ไม่รักษารังแค จนเกิดปัญหารังแคเรื้อรังก็อาจนำมาสู่ปัญหาใหญ่ต่อไปคือ ภาวะผมร่วง อาการหนังศีรษะอักเสบ และเกิดเชื้อราบนหนังศีรษะได้
แล้วจะมีวิธีอะไรบ้างที่สามารถรักษารังแคให้หายขาด ในบทความนี้ทาง Absolute Hair Clinic จะมาให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรังแคถึงสาเหตุของการเกิดรังแค อาการแบบนี้ใช่รังแคหรือไม่ รวมทั้งวิธีกำจัดรังแคอย่างง่าย ที่แค่ปรับพฤติกรรมบางอย่างก็กำจัดรังแคที่เป็นปัญหากวนใจได้
สารบัญบทความ
- รู้ทันสาเหตุของรังแค
- อาการของรังแคเป็นอย่างไร
- แนะนำ 10 วิธีกำจัดรังแค ฉบับง่าย
- รังแคเยอะ กำจัดไม่หาย เมื่อไหร่ควรพบแพทย์
- ข้อสรุป
รู้ทันสาเหตุของรังแค
ก่อนอื่นควรทราบว่ารังแคเป็นเซลล์ผิวหนังศีรษะที่หลุดลอกออกมาเมื่อมีการผลัดเซลล์ผิว โดยปกติแล้วเซลล์ผิวหนังศีรษะจะมีการผลัดเซลล์ผิวเก่าออก และแทนที่ด้วยเซลล์ผิวหนังศีรษะใหม่ แต่หากการผลัดเซลล์ผิวหนังศีรษะเกิดความผิดปกติขึ้นจากปัจจัยต่าง ๆ ก็จะทำให้เซลล์ผิวหนังศีรษะเกิดหลุดลอกออกมาบ่อยและมากกว่าปกติ หรือที่เราเรียกกันว่ารังแคนั่นเอง
หากเราทราบถึงสาเหตุของการเกิดรังแค ก็จะสามารถหาวิธีลดรังแค หรือวิธีกำจัดรังแคได้ง่ายขึ้นนั่นเอง ดังนั้นปัจจัยหรือสาเหตุของการเกิดรังแคมีอยู่หลายสาเหตุ ดังนี้
1. เชื้อรามาลาสซีเซีย (Malassezia)
Malassezia sp. เป็นสกุลเชื้อราที่สามารถพบได้บนผิวหนังของสัตว์หลาย ๆ ชนิดรวมถึงผิวหนังมนุษย์ ซึ่งปกติแล้วเจ้าเชื้อรามาลาสซีเซียนี้จะอยู่อาศัยบนผิวหนังของสัตว์และมนุษย์จำนวนหนึ่งโดยที่ไม่ก่ออันตรายใด ๆ แต่เมื่อใดก็ตามที่มีสิ่งกระตุ้นให้เชื้อรามาลาสซีเซียเกิดเพิ่มจำนวนมากผิดปกติก็สามารถก่อโรคได้
ชนิดของเชื้อรามาลาสซีเซียที่พบบนหนังศีรษะคือมาลาสซีเซีย โกลโบซา (Malassezia Globosa) โดยอาหารของเชื้อรามาลาสซีเซียก็คือน้ำมันบนหนังศีรษะของเรา เมื่อใดที่ร่างกายเกิดสร้างน้ำมันบนหนังศีรษะมากเกินความจำเป็น ไม่ว่าจะพฤติกรรมการสระผมที่ถี่หรือน้อยจนเกินไป หรือโรคและฮอร์โมนต่าง ๆ ก็จะทำให้เจ้าเชื้อรามาลาสซีเซียนี้มีอาหารมาก และสามารถแบ่งตัวเพิ่มจำนวนได้มากขึ้นนั่นเอง
และเมื่อเชื้อรามาลาสซีเซียที่มีจำนวนมากขึ้นต่างแย่กันกินน้ำมันบนหนังศีรษะจนน้ำมันบนหนังศีรษะหมดไป ร่างกายก็จะสร้างกรดไขมันโอเลอิก (Oleic Acid) ขึ้นมาและทำให้หนังศีรษะเกิดอาการระคายเคือง และเกิดอาการหนังศีรษะอักเสบขึ้น
สุดท้ายเมื่อหนังศีรษะเกิดการระคายเคือง ร่างกายจะทำการผลัดเซลล์ผิวหนังศีรษะเร็วและมากกว่าปกติ จนเกิดเป็นรังแคนั่นเอง
2. หนังศีรษะอักเสบจากการแพ้
ในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเส้นผมและหนังศีรษะที่ต้องใช้เป็นประจำอย่างแชมพู ครีมนวดผม หรือที่ใช้บ้างเป็นบางครั้งอย่างน้ำยาย้อมผม น้ำยาดัดผม สเปรย์หรือเจลตกแต่งทรงผมมักจะมีส่วนประกอบเป็นสารเคมี ที่สามารถก่ออาการระคายเคืองแก่หนังศีรษะได้ ในบางรายที่แพ้สารก่อระคายเคืองเหล่านี้ก็จะทำให้ผิวหนังศีรษะอักเสบ และเกิดการลอกของหนังศีรษะหรือรังแคได้
3. หนังศีรษะอักเสบจากโรคต่างๆ
โรคบางอย่างสามารถก่อให้เกิดอาการอักเสบของผิวหนังได้ รวมถึงหนังศีรษะอักเสบ และก่อให้เกิดรังแคเยอะนั่นเอง เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคพาร์กินสัน โรคเอดส์ เป็นต้น
4. ปัญหาความชุ่มชื้นของหนังศีรษะ
สาเหตุที่พบได้บ่อยของผู้ที่เป็นรังแคบนหนังศีรษะก็มาจากผิวหนังศีรษะขาดความชุ่มชื้น ไม่ว่าจะเกิดจากสภาพอากาศที่เย็นและแห้ง ความชื้นในอากาศน้อย หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผมและหนังศีรษะที่มีสารเคมีรุนแรง เช่น แชมพูที่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ และสารก่อระคายเคืองอื่น ๆ ในปริมาณมาก น้ำยาย้อมผม น้ำยาดัดผม สเปรย์และเจลตกแต่งทรงผม เป็นต้น
ด้วยสาเหตุดังกล่าวก็จะทำให้น้ำมันบนหนังศีรษะลดลง ้ป็นเหตุทำให้ผิวหนังศีรษะแห้งและหลุดลอกออกมามากกว่าปกตินั่นเอง
อาการของรังแคเป็นอย่างไร
มีรังแคทำไงดี ? ก่อนเราจะมาหาวิธีกำจัดรังแคบนหัวต้องทราบก่อนว่ารังแคบนหนังศีรษะสามารถแบ่งได้ 2 ชนิดตามลักษณะอาการของรังแค โดยแต่ละชนิดก็มีอาการ มีวิธีขจัดรังแคที่ต่างกันไป ดังนี้
อาการรังแคแห้ง
รังแคแห้งมีลักษณะเป็นแผ่นเล็ก ๆ สีขาว เกาะอยู่ตามเส้นผมหรือร่วงอยู่บนไหล่ รังแคแห้งมักเกิดจากการที่ผิวหนังศีรษะเกิดเสียความชุ่มชื้นไปจากการที่มีน้ำมันบนหนังศีรษะน้อยกว่าปกติ
โดยสาเหตุอาจมาจากการอยู่ที่สภาพภูมิอากาศที่แห้งและเย็น หรือชอบอยู่ในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศบ่อย ๆ หรือจากการใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ทำให้หนังศีรษะแห้ง สูญเสียน้ำมันบนหนังศีรษะไปมาก เมื่อหนังศีรษะแห้งก็ทำให้เกิดการหลุดของเซลล์ผิวหนังศีรษะออกมาได้ง่ายและเร็วกว่าปกติ ก่อเป็นรังแคแห้งนั่นเอง
อาการรังแคเปียก
รังแคเปียกมีลักษณะเป็นแผ่นหนาและใหญ่กว่ารังแคแห้ง มีสีเหลืองและเหนียว โดยรังแคเปียกเกิดได้จากการที่หนังศีรษะมีน้ำมันบนหนังศีรษะมากเกินกว่าปกติ และทำให้เชื้อรามาลาสซีเซียที่เป็นเชื้อราประจำถิ่นบนผิวหนังของเราอยู่แล้วได้รับอาหารอย่างน้ำมันบนหนังศีรษะมากกว่าปกติ จนสามารถเพิ่มจำนวนได้มาก
เมื่อเชื้อราบนหนังศีรษะมีจำนวนมากร่างกายก็จะสร้างกรดไขมันโอเลอิก ทำให้เกิดอาการอักเสบบนหนังศีรษะและเกิดการระคายเคือง เมื่อหนังศีรษะเกิดการระคายเคืองก็จะทำให้การผลัดเซลล์ผิวหนังศีรษะมากกว่าปกติ เกิดเป็นรังแคเปียกนั่นเอง
แนะนำ 10 วิธีกำจัดรังแค ฉบับง่าย
เป็นรังแคใช้อะไรหาย คำถามเบสิคของผู้ที่เป็นรังแค อย่างที่ทราบกันแล้วว่าสาเหตุการเกิดรังแคส่วนมากเกิดจากการขาดสมดุลของน้ำมันบนหนังศีรษะ ไม่ว่าจะน้อยไปหรือมากไปก็สามารถทำให้เกิดรังแคบนหนังศีรษะได้
ดังนั้นวิธีแก้รังแคจึงสามารถทำได้โดยการทำให้น้ำมันบนหนังศีรษะกลับมาอยู่ในภาวะสมดุลนั่นเอง Absolute Hair Clinic ขอแนะนำ 7 วิธีกำจัดรังแค ฉบับง่ายที่ทำได้แค่การปรับพฤติกรรมก็ช่วยให้ท่านโบกมือลาปัญหารังแคไปได้เลย
1. เลือกใช้แชมพูขจัดรังแคโดยเฉพาะ
เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่พอรู้ตัวว่ามีรังแคบนหนังศีรษะก็จะไปหาซื้อผลิตภัณฑ์ที่สามารถกำจัดรังแคอย่างแชมพูขจัดรังแคมาใช้กัน แต่ทราบหรือไม่ว่า ไม่ใช่ว่ารังแคทุกประเภทจะเหมาะกับการใช้ผลิตภัณฑ์แชมพูขจัดรังแคเสมอไป หากการเกิดรังแคเกิดจากการที่หนังศีรษะแห้ง หรือรังแคแห้ง การใช้แชมพูขจัดรังแคก็จะไม่ใช่วิธีทำให้รังแคหายไป หนำซ้ำยังเร่งให้เกิดรังแคเยอะกว่าเดิมอีกด้วย
แต่ถ้าการเกิดรังแคของท่านเกิดจากการที่หนังศีรษะมีน้ำมันมากเกินไป หรือรังแคเปียก การใช้แชมพูขจัดรังแคก็นับเป็นวิธีกำจัดรังแคที่ทำได้ง่ายและให้ประสิทธิภาพดี
อย่างไรก็ตามก่อนจะเลือกใช้แชมพูขจัดรังแคควรเลือกแชมพูที่มีส่วนผสมที่ช่วยต่อการรักษารังแค ดังนี้
- คีโตโคนาโซล (Ketoconazole), ซิงค์ไพริไธโอน (Zinc Pyrithione), ไพรอกโทน โอลามีน (Piroctone Olamine) และ ซีลีเนียมซัลไฟด์ (Selenium Sulfide) สารประกอบเหล่านี้ใช้ลดจำนวนของเชื้อรามาลาซีเซียที่มีมากเกินไปได้
- น้ำมันดิน (Coal Tar) ช่วยให้เซลล์ผิวหนังศีรษะเกิดการผลัดเซลล์ช้าลง
- ที ทรีออยล์ (Tea Tree Oil) ช่วยลดและควบคุมความมันบนหนังศีรษะ
นอกจากจะต้องดูส่วนผสมที่ควรมีในแชมพูขจัดรังแคแล้ว ควรดูถึงส่วนผสมที่ไม่ควรใช้ หรือควรหลีกเลี่ยงอย่าง Sodium Lauryl Sulfate (SLS) เป็นกลุ่มสารลดแรงตึงผิวที่มักใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด สามารถขจัดน้ำมันออกได้มาก หากในแชมพูขจัดรังแคมีการใช้สาร SLS ที่มากไปก็จะทำให้หนังศีรษะแห้งและเกิดรังแคขึ้นมากกว่าเดิมได้
วิธีขจัดรังแคให้หายขาดด้วยการใช้แชมพูขจัดรังแคสามารถทำได้ แต่ควรใช้ตามคำแนะนำข้างขวดผลิตภัณฑ์ หากใช้ไม่ต่อเนื่องก็สามารถทำให้กลับมาเป็นรังแคได้อีก หรือหากใช้มากเกินไปก็จะทำให้หนังศีรษะแห้งเกินและก่อให้เกิดรังแคเยอะกว่าเดิม
2. หลีกเลี่ยงการเกาหนังศีรษะแรงเกินไป
เมื่อเกิดรังแค สิ่งหนึ่งที่ผู้ที่มีรังแคชอบทำคือการเกาหนังศีรษะ เนื่องจากหนังศีรษะแห้งและคันนั่นเอง แต่การเกาหนังศีรษะนอกจากจะยิ่งเป็นการเร่งให้รังแคร่วงหนักกว่าเดิมแล้ว ยังอาจทำให้ผมร่วง หนังศีรษะอักเสบหรือเกิดการติดเชื้ออีกด้วย
3. สระผมให้ถูกวิธี
หนึ่งในวิธีกำจัดรังแคบนหัวที่ทำได้ง่ายมากคือการรักษาความสมดุลของน้ำมันบนหนังศีรษะด้วยการสระผมให้ถูกวิธีนั่นเอง หากไม่ค่อยสระผมก็จะทำให้น้ำมันบนหนังศีรษะมากจนเชื้อรามาลาซีเซียมากเกินไปและเกิดการอักเสบของหนังศีรษะจนเกิดรังแคเปียกขึ้น หรือหากสระผมบ่อยเกินไปก็จะทำให้สูญเสียน้ำมันบนหนังศีรษะมาก หนังศีรษะขาดความชุ่มชื้น จึงทำให้หนังศีรษะแห้งและลอกเป็นรังแคแห้ง
ดังนั้นควรสระผมอย่างพอดี เพื่อไม่ให้ปริมาณน้ำมันบนหนังศีรษะเกิดขาดสมดุล โดยแนะนำประมาณ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือวันเว้นวันนั่นเอง และการสระผมควรใช้น้ำอุณหภูมิห้องไม่ควรใช้น้ำร้อน เนื่องจากน้ำร้อยจะยิ่งเร่งให้หนังศีรษะแห้งขึ้น นอกจากนี้ควรระวังการขยี้ผม เกาหนังศีรษะระหว่างสระผมอย่างรุนแรง เนื่องจากจะทำให้หนังศีรษะอักเสบได้
4. ควรเช็ดผมหรือเป่าผมให้แห้งทุกครั้งหลังสระผม
หลังสระผมเสร็จควรทำให้ผมและหนังศีรษะแห้งทุกครั้ง เพื่อไม่ให้หนังศีรษะเกิดความชื้นมากเกินไปจนทำให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมในการเจริญของเชื้อราจนเกิดอาจเกิดเป็นโรคเชื้อราบนหนังศีรษะได้ แต่การทำให้ผมและหนังศีรษะแห้งควรทำด้วยการใช้ผ้าขนหนูที่สะอาดเช็ดเบา ๆ หรือเป่าลมอุณหภูมิปกติ ไม่ควรใช้ไดร์เป่าผมอุณหภูมิสูงเนื่องจากจะทำให้หนังศีรษะแห้งเกินไป
5. เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์
วิธีขจัดรังแคแบบธรรมชาติที่หลายคนอาจไม่นึกถึงนั่นก็คือการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์นั่นเอง ในอาหารบางชนิดก็จะมีสารสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหนังและเส้นผม เมื่อผิวหนังและเส้นผมแข็งแรงก็จะเป็นการลดรังแคลงได้
สำหรับอาหารบำรุงผม นั้นจะเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันดี เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 ที่ช่วยป้องกันไม่ให้หนังศีรษะแห้ง ในส่วนของวิตามินบํารุงผมก็จะมีวิตามินบีที่มีประโยชน์ต่อผิวหนังและเส้นผม นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุอย่างเช่นสังกะสีที่ช่วยให้ต่อมไขมันทำงานปกติ และภูมิคุ้มกันแข็งแรง ดังนั้นการทานอาหารที่เป็นประโยชน์ก็เรียกได้ว่าเป็นวิธีกำจัดรังแคแบบธรรมชาติ ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้นั่นเอง
6. หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกับหนังศีรษะและเส้นผม
ในผู้ที่เป็นรังแค หากต้องการรักษารังแคให้หายขาด ควรหลีกเลี่ยงการใช้เคมีกับเส้นผมและหนังศีรษะอย่างการทำสีผม การดัดผม หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ตกแต่งทรงผม เนื่องจากในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ประกอบด้วยสารเคมีที่ก่อการระคายเคืองกับหนังศีรษะมาก จนก่อให้เกิดรังแคขึ้นได้
7. รักษาความสะอาดของหวีและอุปกรณ์ทำผมอยู่เสมอ
เชื่อว่าข้อนี้หลาย ๆ คนมักมองข้ามความสำคัญไป แต่การทำความสะอาดหวีและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อกับผมและหนังศีรษะเป็นประจำนั้นช่วยลดการสะสมของเชื้อราที่ตกค้างบนอุปกรณ์เหล่านั้นที่จะนำไปใช้กับผมและหนังศีรษะต่อได้
8.ใช้ครีมนวดผมอย่างถูกวิธี
โดยทั่วไปแล้วหลาย ๆ คนคงคิดว่าเพียงแค่ใช้ครีมนวดนวดทั่วศีรษะเหมือนกับการใช้ยาสระผมตามปกติก็เพียงพอแล้ว แต่นั่นเป็นการใช้ครีมนวดผมอย่างผิดวิธี ซึ่งการใช้ครีมนวดผมวิธีนั้นแทนที่จะช่วยทำให้ผมดูลื่นสวยมากขึ้น แต่จะกลายเป็นทำให้หนังศีรษะมัน ทำให้มีโอกาสเกิดรังแคและต้องใช้เวลารักษาแทน
ดังนั้นเป็นรังแค แก้ยังไง? ในกรณีที่ใช้ครีมนวด ควรใช้ครีมนวดผมนวดบริเวณปลายผมแทนการใช้ครีมนวดผมทั่วศีรษะ จะช่วยบำรุงผมให้ดูมีน้ำหนักและยาวสวยมากขึ้น และยังช่วยลดโอกาสที่ทำให้หนังศีรษะเกิดรังแคได้ด้วย
9.หลีกเลี่ยงการหมักผม
สำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดรังแคอย่างเป็นธรรมชาติ ก็มองวิธีขจัดรังแคแบบถาวรที่จะช่วยให้รังแคหายได้ ซึ่งบางส่วนก็จะเลือกวิธีหมักผมเพื่อรักษารังแคเรื้อรัง แต่ที่จริงแล้วเหล่าผู้เชี่ยวชาญกลับไม่แนะนำให้หมักผม เพราะการหมักผมจะต้องล้างสิ่งที่นำมาหมักผมออกให้หมดไม่ให้เหลือตกค้าง อีกทั้งผลิตภัณฑ์หมักผมบางสูตรอาจใช้เกลือหรือสารที่มีฤทธิ์เป็นกรด ทำให้ระคายเคืองหนังศีรษะได้
ดังนั้นในกรณีที่ต้องการบำรุงและรักษารังแค สามารถเลือกใช้แชมพูหรือยาสระผมสูตรสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาปัญหารังแคแทนการหมักผมที่มีโอกาสทำให้รู้สึกระคายเคืองหนังศีรษะ ได้
10. หลีกเลี่ยงการสระผมด้วยน้ำอุ่น
เพราะรังแคเกิดจากจากขาดความชุ่มชื้น วิธีรักษาที่สามารถแก้ให้หนังศีรษะไม่แห้งจนเกินไปนั้น ก็คือ หลีกเลี่ยงการสระผมด้วยน้ำอุ่น ถึงแม้ว่าการอาบน้ำสระผมด้วยน้ำอุ่นจะรู้สึกสบายร่างกายมากกว่าการสระผมด้วยน้ำอุณหภูมิปกติหรือน้ำเย็น แต่การสระผมด้วยน้ำอุ่นจะทำให้หนังศีรษะเสียความชุ่มชื้นไปเนื่องจากน้ำอุ่นจะเป็นตัวล้างน้ำมันบนผมออกมากเกินไป และนั่นจะทำให้เกิดรังแคขึ้นได้
รังแคเยอะ กำจัดไม่หาย เมื่อไหร่ควรพบแพทย์
เป็นรังแคหนักมาก ใช้ทุกวิธีกำจัดรังแคแล้วก็ไม่หายไม่ดีขึ้น นั่นอาจเป็นสัญญาณของอาการเกิดรังแคเรื้อรัง หรือมีสาเหตุของการเกิดรังแคที่ไม่ได้มาจากการขาดสมดุลของน้ำมันบนหนังศีรษะ หากลองรักษารังแคด้วยตนเองแล้วเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้วรังแคยังไม่ลดลง อาจต้องเข้าพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหาสาเหตุของรังแค วินิจฉัย และวางแผนการรักษาต่อไป
รวมถึงยังมีกรณีหนังศีรษะลอกที่จำเป็นต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากหนังศีรษะลอกจะมีลักษณะใกล้เคียงกับรังแคมาก โดยมีลักษณะเป็นขุยสีขาว หรือลอกเป็นแผ่น ๆ ซึ่งจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอาการของโรคที่ส่งผลข้างเคียงทำให้หนังศีรษะลอก ดังนั้นหากเกิดรังแคนาน รักษาไม่หาย ควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาเช่นเดียวกัน
ข้อสรุป
รังแคเป็นเพียงการหลุดลอกของเซลล์ผิวหนังศีรษะ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดกับใครก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามถึงการเกิดรังแคจะไม่ใช้โรคอันตรายแต่ก็สร้างบุคลิคภาพที่ไม่ดี และทำให้สูญเสียความมั่นใจได้ นอกจากนี้หากปล่อยทิ้งไว้จนเกิดอาการเรื้อรังก็อาจนำมาสู่โรคอื่น ๆ ได้อีกด้วย
ดังนั้นหากรู้ตัวว่าเริ่มมีรังแคควรรีบหาวิธีกำจัดรังแคและรักษารังแคแต่แรก เพื่อไม่ให้เกิดอาการเรื้อรัง แต่หากลองใช้วิธีกำจัดรังแคทุกวิธีแล้วก็ยังไม่สามารถลดปริมาณรังแคลงได้อาจต้องเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้การรักษารังแคเป็นไปได้อย่างตรงจุด
หากท่านมีข้อสงสัย อยากขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาวิธีกำจัดรังแคเรื้อรัง ทาง Absolute Hair Clinic ยินดีให้บริการ ท่านสามารถส่งข้อความหรือรูปเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ Line: @Absolutehairclinic