ปัญหาผมร่วงเป็นปัญหากวนใจของหลาย ๆ คน เวลาแปรงผม หวีผมทีไรผมก็หลุดติดหวีมาเป็นกำ เวลาทำความสะอาดบ้านทีก็มักจะเจอเศษผมตลอดเวลา นอกจากปัญหาจุกจิกพวกนี้แล้วยังอาจทำให้ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงรู้สึกวิตกกังวล ขาดความมั่นใจในตนเองได้ เพื่อแก้ปัญหาผมบาง ผมร่วง เสริมสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง
หลายคนจึงหาวิธีแก้ผมร่วงด้วยวิธีต่าง ๆ โดยวิธีที่เป็นที่นิยมคือการใช้ยาแก้ผมร่วงนั่นเอง หนึ่งในกลุ่มยาแก้ผมร่วงที่เด่น ๆ และเป็นที่นิยมคือ ไมนอกซิดิล (Minoxidil) แต่หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วยาปลูกผมไมนอกซิดิลคืออะไร มีกี่ประเภท ช่วยรักษาผมร่วงได้จริงหรือไม่ แล้วไมนอกซิดิล minoxidil ผลข้างเคียงเป็นอย่างไร Absolute Hair Clinic จะมาไขข้อสงสัยให้ท่าน
สารบัญบทความ
- รู้จัก ‘ยาไมนอกซิดิล’
- สรรพคุณของยาไมนอกซิดิล
- ประเภทของยาไมนอกซิดิล
- ยาไมนอกซิดิลแบบรับประทานและแบบทาต่างกันอย่างไร
- การใช้ยาไมนอกซิดิลเพื่อรักษาผมร่วง
- เปรียบเทียบระหว่าง Minoxidil และ Finasteride
- เปรียบเทียบระหว่าง Minoxidil และ Dutasteride
- ยาไมนอกซิดิลเหมาะกับใครบ้าง
- ยาไมนอกซิดิลไม่เหมาะกับใคร
- ความเข้มข้นของตัวยาไมนอกซิดิลที่เหมาะสม
รู้จัก ‘ยาไมนอกซิดิล’
ยาไมนอกซิดิล (Minoxidil) เดิมทีถูกใช้ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โดยกลไกการออกฤทธิ์ของไมนอกซิดิลจะไปช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว เมื่อหลอดเลือดขยายตัวทำให้เลือดสามารถไหลเวียนได้มากและดีขึ้น และเลือดไหลเวียนได้สะดวกขึ้นจึงทำให้ความดันโลหิตต่ำลงนั่นเอง
แต่ในภายหลังพบว่าผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ใช้ยาไมนอกซิดิลไประยะหนึ่งแล้วพบผลข้างเคียงจากการใช้ยานี้คือมีผมงอกออกมาใหม่ แพทย์ที่เห็นถึงผลข้างเคียงที่เป็นประโยชน์นี้จึงมีการนำยาไมนอกซิดิลมาพัฒนาเพื่อเป็นยาแก้ผมร่วง หัวล้าน โดยรูปแบบของยาไมนอกซิดิลนั้นมีหลายประเภทขึ้นอยู่ลักษณะการใช้งานและการรักษา ประเภทของยาไมนอกซิดิลจะยกไปกล่าวในหัวข้อถัด ๆ ไป
รายละเอียดยาไมนอกซิดิล (Minoxidil)
- ชื่อสารสำคัญ ไมนอกซิดิล (Minoxidil)
- กลุ่มยา ยาลดความดันโลหิต
- ประเภทยา ยาอันตราย ใช้ตามแพทย์สั่ง
- สรรพคุณ ขยายหลอดเลือด
- ผลข้างเคียง ผมและขนงอกใหม่ตามร่างกาย (ปัจจุบันผลข้างเคียงนี้ถูกนำมาใช้เป็นยารักษาผมร่วง ยาปลูกผม)
- รูปแบบของยา ใช้รับประทาน (ยาเม็ด) ใช้ภายนอก (ยาทา โฟม สเปรย์)
สรรพคุณของยาไมนอกซิดิล
อย่างที่กล่าวไปว่ายาไมนอกซิดิลเดิมทีใช้เป็นยารักษาโรคความดันโลหิตสูงแต่ก็มีผลข้างเคียงที่สามารถมองได้ว่าเป็นประโยชน์ในการรักษาภาวะผมร่วง ผมบาง หัวล้านได้ ในหัวข้อนี้จะมากล่าวถึงสรรพคุณและผลข้างเคียงที่นับว่าเป็นอีกสรรพคุณหนึ่งของยาไมนอกซิดิล ดังนี้
1. ลดความดันโลหิต ในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
หนึ่งในสาเหตุของความดันโลหิตสูงเกิดจากหลอดเลือดเกิดการหด ตีบ ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก และเพื่อให้เลือดสามารถไหลเวียนผ่านหลอดเลือดได้ต่อไป จึงเกิดความดันโลหิตสูงนั่นเอง
ไมนอกซิดิลจะมีกลไกการออกฤทธิ์ให้หลอดเลือดเกิดการขยายตัว เมื่อหลอดเลือดขยายตัวก็จะส่งผลให้เลือดสามารถไหลเวียนได้ดีขึ้น และเมื่อเลือดสามารถไหลเวียนได้ดี ความดันโลหิตจึงลดลง
2. รักษาผมร่วง ผมบาง หัวล้าน
ด้วยฤทธิ์ของยาไมนอกซิดิล ช่วยให้เลือดสามารถไหลเวียนได้ดีขึ้น จึงทำให้รากขน รากผมบริเวณผิวหนังได้รับสารอาหารจากการที่เลือดไหลเวียนผ่านมากขึ้น และไปกระตุ้นให้เกิดการงอกของขนและเส้นผมนั่นเอง
โดยยาไมนอกซิดิลที่ใช้สำหรับรักษาผมร่วง หรือปลูกผมนั้นจะมีปริมาณของสารสำคัญ ไมนอกซิดิล (Minoxidil) ที่น้อยกว่ายาไมนอกซิดิลที่ใช้เพื่อลดความดันโลหิต เพื่อลดความเสี่ยงและผลข้างเคียงอื่น ๆ จากการใช้ยา
วิธีแก้ผมร่วงอื่น ๆ ที่แพทย์แนะนำ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ วิธีแก้ผมร่วง
ประเภทของยาไมนอกซิดิล
ยาไมนอกซิดิลที่ใช้รักษาผมร่วง หรือใช้เพื่อปลูกผมที่มีการใช้ในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ดังนี้
1. ยาไมนอกซิดิล แบบกิน
ยาไมนอกซิดิลแบบกิน จะมาในรูปแบบของยาเม็ด โดยตัวยาไมนอกซิดิลที่ทานเข้าไปสามารถละลายและดูดซึมได้ง่ายและเร็ว ทำให้เห็นผลของการรักษาได้เร็ว นอกจากนี้ยังไม่ต้องเสียเวลาทา ทำให้เหนียวเหนอะหนะในบริเวณที่ต้องทา อาจทำให้รู้สึกไม่สบายบริเวณที่ทา และอาจระคายเคืองหรือคันได้
แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากการกินไม่สามารถกำหนดจุดที่ต้องการให้เส้นผมหรือขนขึ้นตรงไหน จึงทำให้ขนและผมขึ้นทั้งตัว ทั้งในจุดที่ต้องการและจุดที่ไม่ต้องการ แต่เมื่อหยุดใช้ยา ผลข้างเคียงจากการมีขนขึ้นในบริเวณต่าง ๆ ก็จะหลุดไปเอง
2. ยาไมนอกซิดิลแบบทา
ยาไมนอกซิดิล (Minoxidil) แบบทา มีทั้งแบบน้ำ แบบสเปรย์ และแบบโฟมให้เลือกใช้ โดยจุดเด่นของยาไมนอกซิดิลแบบทาคือสามารถกำหนดบริเวณที่ต้องการให้ผมและขนขึ้นได้เลย บางคนจึงนิยมนำยาไมนอกซิดิลมาใช้เพื่อปลูกคิ้วและปลูกหนวดด้วยเช่นกัน
วิธีใช้ยาไมนอกซิดิลเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ควรทายาไมนอกซิดิลให้สัมผัสกับหนังศีรษะโดยตรง เพื่อให้ตัวยาสามารถซึมลงโคนผมสู่รากผมได้ดี หากทายาไมนอกซิดิลแค่การชโลมเบา ๆ หรือทาไม่โดนหนังศีรษะในปริมาณที่เพียงพอ จะทำให้ประสิทธิภาพในการกระตุ้นการงอกของผมลดลง หรือไม่ได้ผลเลย
ชนิดของยาไมนอกซิดิลที่ใช้ภายนอกแบบดั้งเดิมคือแบบน้ำ และยังมีการใช้จนถึงปัจจุบัน โดยให้ประสิทธิภาพดี ในคลินิกรักษาผมร่วงหลายแห่ง มักจะใช้ไมนอกซิดิลแบบกินและแบบทาควบคู่กัน ทำให้การปลูกผม รักษาผมร่วงประสบความสำเร็จสูงขึ้น
แต่ข้อจำกัดของยาไมนอกซิดิลในบางยี่ห้อนั้น ตัวยาไมนอกซิดิลอาจมีลักษณะที่ข้นเหนียวเหนอะหนะ เมื่อทาทิ้งไว้จะเกิดคราบขาวคล้ายรังแค และยังทำให้คันหนังศีรษะและระคายเคืองได้ ด้วยข้อเสียที่น่ารำคาญเหล่านี้จึงมีการพัฒนายาปลูกผมไมนอกซิดิลในรูปแบบโฟม ซึ่งจะลดข้อเสียของแบบน้ำ ตัวโฟมไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่ทำให้เกิดคราบขาวหลังใช้อีกด้วย
สำหรับในด้านของผลลัพธ์ การใช้ไมนอกซิดิลแบบทาสามารถกำหนดจุดที่ต้องการรักษาได้เลย แต่หากพูดถึงประสิทธิภาพและระยะเวลาการเกิดผลลัพธ์นั้นอาจด้อยกว่าแบบกินอยู่บ้าง เนื่องจากจะใช้เวลาที่นานกว่าแบบกินที่ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้รวดเร็วกว่านั่นเอง และหากใช้ยาไมนอกซิดิลแบบทาไม่ถูกวิธีก็จะไม่เห็นผลลัพธ์ หรือไม่ได้ผลนั่นเอง
ยาไมนอกซิดิลแบบรับประทานและแบบทาต่างกันอย่างไร
เริ่มกันที่ตัวยา minoxidil แบบกิน ข้อดีคือ พกพาสะดวก ร่างกายดูดซึมยาได้อย่างรวดเร็ว สามารถหยิบขึ้นมากินตอนไหนก็ได้โดยไม่เสียเวลาในการดำเนินชีวิต และคำถามที่หลายคนอยากรู้มากที่สุดคือ minoxidil กี่เดือนเห็นผล จากการทดลองในกลุ่มคนที่มีอาการผมร่วงและหัวล้าน เมื่อกินยาติดต่อกัน 3-6 เดือนผลที่ได้คือ เกิดผมงอกขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่วนข้อเสียคือ เมื่อตัวยาถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด จึงไม่สามารถควบคุมการออกฤทธิ์ในบริเวณที่ต้องการให้เกิดการงอกของเส้นผม ทำให้มีผมและขนเกิดขึ้นใหม่ทั่วร่างกายแม้กระทั่งบริเวณที่ไม่ต้องการให้เกิดก็ตาม
minoxidil แบบทา ข้อดีคือ เหมาะกับผู้ที่มีอาการ หัวล้านตรงกลาง ผมบางกลางหัว หรือหัวล้านบางส่วน เนื่องจากสามารถกำหนดจุดที่ต้องการให้เกิดผมงอกขึ้นมาใหม่ได้โดยการทาไปยังบริเวณที่ต้องการ ส่วนข้อเสีย คือ รู้สึกเหนียวเหนอะหนะบริเวณที่ทา ไม่สบายผิว ผู้ที่มีอาการแพ้อาจรู้สึกระคายเคืองหนังศีรษะ ส่วนผลลัพธ์ที่ได้ แบบทาจะเห็นผลช้ากว่าแบบกิน
การใช้ยาไมนอกซิดิลเพื่อรักษาผมร่วง
ทำไมยาไมนอกซิดิลที่เป็นยาลดความดันโลหิตจึงช่วยรักษาผมร่วงได้ด้วย ? อย่างที่กล่าวไปในหัวข้อก่อน ๆ แล้วว่าเป็นเรื่องของการไหลเวียนโลหิตที่ดีจนส่งผลให้รากผมสามารถงอกผมขึ้นมาใหม่ได้ แต่หากยังเห็นภาพไม่ชัด ทาง Absolute Hair Clinic ต้องขออธิบายหลักการทำงานของยาไมนอกซิดิลเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ดังนี้
- เมื่อตัวยาไมนอกซิดิลสัมผัสกับหนังศีรษะและซีมผ่านรูขุมขนจนถึงรากผม (กรณีใช้ยาไมนอกซิดิลแบบทา) หรือตัวยาไมนอกซิดิลถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด (กรณีใช้ยาไมนอกซิดิลแบบกิน) จะไปช่วยให้หลอดเลือดที่ได้เจอกับยาไมนอกซิดิลขยายตัว
- เมื่อหลอดเลือดเกิดการขยายตัว จึงส่งผลให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น
- สารอาหารต่าง ๆ ในเลือดจะถูกลำเลียงผ่านหลอดเลือด เมื่อการไหลเวียนดี ทำให้เลือดที่มีสารอาหารได้ไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมทั้งรากผมด้วย
- เมื่อรากผมได้รับสารอาหารเต็มที่ก็สามารถงอกผมหรือขนและเจริญขึ้นมาได้ดีนั่นเอง
เปรียบเทียบระหว่าง Minoxidil และ Finasteride
ในปัจจุบันยารักษาผมร่วงที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA-Food and Drug Administration) มี 2 ชนิดคือ Minoxidil และ Finasteride โดยตัวยาทั้งสองชนิดให้ผลลัพธ์คือเพิ่มจำนวนเส้นผมหรือขนได้ แต่อย่างไรก็ตามยาทั้งสองตัวนี้มีกลไกการออกฤทธิ์ รวมถึงลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้
ชื่อยา | Minoxidil | Finasteride |
---|---|---|
การใช้งาน | แบบยาเม็ดสำหรับรับประทาน แบบน้ำ สเปรย์ โฟมสำหรับใช้ภายนอก |
ยาเม็ดสำหรับรับประทาน |
กลไกการออกฤทธิ์ | ขยายหลอดเลือดเพื่อให้เลือดนำสารอาหารมาหล่อเลี้ยงรากผมดีขึ้น | ป้องกันการผลิตฮอร์โมน Dihydrotestosterone ในเพศชาย ซึ่งฮอร์โมนนี้จะไปทำให้เส้นผมฝ่อลง จนเกิดผมร่วง หัวล้าน |
การรักษา | รักษาอาการผมร่วงจากโรคผิวหนัง หรือโรคอื่น ๆ ความเครียด หรือจากกรรมพันธุ์ | รักษาได้ในผู้ชายที่ผมร่วง หัวล้านจากกรรมพันธุ์ |
ข้อจำกัด | ในรูปแบบกิน อาจทำให้เกิดขนในบริเวณที่ไม่ต้องการให้เกิด
ในรูปแบบทา อาจเหนียวเหนอะหนะ ไม่สบายศีรษะขณะใช้งาน อาจเกิดคราบขาวคล้ายรังแค หรืออาการคันจากการระคายเคือง |
ได้ผลเฉพาะเพศชายเท่านั้น (เนื่องจากตัวยาจะส่งผลต่อฮอร์โมนที่พบในเพศชาย)
ห้ามใช้กับเพศหญิงเด็ดขาด (ตัวยาส่งผลให้อวัยวะเพศของทารกในครรภ์เกิดความผิดปกติขึ้น) |
การจำหน่าย | หาซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยา | จำเป็นต้องมีใบสั่งยา |
เปรียบเทียบระหว่าง Minoxidil และ Dutasteride
ข้อมูลการเปรียบเทียบระหว่าง Minoxidil และ Dutasteride เพื่อให้เห็นถึงวิธีการใช้งาน กลไกการออกฤทธิ์ ประสิทธิภาพการรักษา ข้อจำกัด และการจำหน่าย เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้ผู้อ่านก่อนเริ่มต้นรักษาอาการหัวล้าน
ชื่อยา | Minoxidil | Dutasteride |
การใช้งาน | ยาเม็ด(สำหรับทาน), แบบน้ำ, แบบสเปรย์, แบบโฟม | ยาเม็ด(สำหรับทาน) |
กลไกการออกฤทธิ์ | ช่วยขยายหลอดเลือดภายในร่างกายทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น เมื่อรากผมได้รับสารอาหารที่เพียงพอจึงทำให้เกิดผมงอกขึ้นใหม่ | ชะลอการสร้างฮอร์โมน Dihydrotestosterone ในเพศชายซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดหัวล้านได้ถึง 90% และออกฤทธิ์นานถึง 5 สัปดาห์ |
การรักษา | รักษาโรคผิวหนัง โรคความเครียดลดความดันโลหิต และกระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม | รักษาโรคต่อมลูกหมากโตและกระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม |
ข้อจำกัด | ทำให้เกิดผมและขนในบริเวณที่ไม่ต้องการให้เกิด, เหนียวเหนอะหนะและอาจเกิดการระคายเคืองผิวหนัง | ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคตับ ไต ระดับไขมันในเลือดสูง และเพศหญิง |
การจำหน่าย | หาซื้อได้ตามร้านทั่วไป | ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมและการจำหน่ายยาจากแพทย์ |
ยาไมนอกซิดิลเหมาะกับใครบ้าง
ยาไมนอกซิดิลเหมาะกับผู้ที่มีอาการผมร่วง ผมบางจากกรรมพันธุ์ หรือจากโรคอื่น ๆ ที่มีผลข้างเคียงทำให้เกิดภาวะผมร่วงอย่างเช่น โรคที่เกี่ยวข้องกับหนังศีรษะ ความเครียด เป็นต้น โดยจะให้ผลดีในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และรักษาได้เฉพาะในผู้ที่มีอาการผมร่วงบริเวณกลางศีรษะ หรือยังมีผมในบริเวณศีรษะบ้าง จะไม่ได้ผลหรือให้ผลไม่ดีในผู้ที่ผมร่วงรุนแรง รากผมถูกทำลายจนเกิดหัวล้าน
- เหมาะกับผู้ที่มีอาการผมร่วงและผมบางกลางศีรษะ
- ผมบางกรรมพันธุ์ ผู้หญิง
- เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคผิวหนัง
- เหมาะกับโรคความเครียด
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความดันโลหิต
ความเข้มข้นของตัวยาไมนอกซิดิลที่เหมาะสม
การใช้ยาไมนอกซิดิล ควรใช้ปริมาณยาตามที่แพทย์สั่ง หรือตามฉลากยาอย่างเคร่งครัด หากใช้น้อยเกินไปก็ทำให้ไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะรักษาอาการผมร่วง แต่หากใช้มากเกินไปนอกจากจะไม่ได้ช่วยให้การรักษาผมร่วงดีขึ้น ยังอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อันตรายได้
โดยทั่วไปของการใช้ยาไมนอกซิดิลรักษาอาการผมร่วงมักจะใช้ปริมาณยาที่แตกต่างกันไปตามชนิดของยา และเพศของผู้ใช้ยา ดังนี้
- เพศชาย
ความเข้มข้นของยาไมนอกซิดิล โลชั่น หรือแบบน้ำที่ 5% ในปริมาณ 1 มิลลิลิตรบนหนังศีรษะความเข้มข้นของยาไมนอกซิดิลแบบโฟมหรือสเปรย์ที่ 5% วันละ2ครั้ง
- เพศหญิง
ความเข้มข้นของยาไมนอกซิดิล โลชั่น หรือแบบน้ำที่ 2-5% ในปริมาณ 1 มิลลิลิตรบนหนังศีรษะความเข้มข้นของยาไมนอกซิดิลแบบโฟมหรือสเปรย์ที่ 5% วันละ 2 ครั้ง
คำแนะนำก่อนใช้ยาไมนอกซิดิล
กรณียาไมนอกซิดิลแบบกิน
- ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น ไม่ควรปรับปริมาณยาหรือระยะการใช้ยาเอง
- ระหว่างการใช้ยาไมนอกซิดิลควรระมัดระวังการเต้นของหัวใจ ควรวัดอัตราการเต้นของหัวใจเป็นประจำ เนื่องจากยาไมนอกซิดิลมีผลข้างเคียงทำให้อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ หากพบว่าระหว่างใช้ยามีอัตราการเต้นหัวใจผิดปกติควรพบแพทย์โดยเร็ว
- หากพบว่าน้ำหนักตัวขึ้นผิดปกติขณะใช้ยาควรเข้าพบแพทย์ทันที
- หากลืมรับประทานยา ให้รีบรับประทานทันทีเมื่อรู้ตัว แต่หากใกล้ถึงมื้ออาหารต่อไปให้ข้ามมื้อที่ลืมรับประทานไปเลย เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับยาเกินขนาด
กรณียาไมนอกซิดิลแบบทา
- ยาไมนอกซิดิลแบบทา เป็นยาใช้เฉพาะที่ สามารถใช้ได้แค่บริเวณศีรษะและบริเวณที่ต้องการให้ขนขึ้นเท่านั้น ห้ามใช้กับส่วนอื่นของร่างกาย
- เพื่อผลลัพธ์ที่ดีควรใช้ยาไมนอกซิดิลติดต่อกันเป็นประจำ
- กรณียาไมนอกซิดิลแบบทาชนิดโฟม ตัวโฟมจะละลายได้ง่าย อาจต้องทำให้มือที่ต้องสัมผัสกับยาแห้งและเย็น หรือใส่ถุงมือก่อนสัมผัสกับตัวยา
- หากพบอาการแพ้ยาไมนอกซิดิลแบบทา เช่น เจ็บหน้าอก เวียนศีรษะ หน้ามืด อาเจียน เกิดผื่น บวมคัน มีรอยแดงบริเวณที่สัมผัสตัวยา ควรพบแพทย์ทันที
แนะนำวิธีใช้ยาไมนอกซิดิลที่ถูกต้อง
วิธีใช้ยาไมนอกซิดิลแบบกิน
ยาไมนอกซิดิลแบบกินส่วนใหญ่เป็นยาเม็ดขนาด 5 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณยาที่ใช้ รักษาอาการผมร่วง ผมบาง หรือสามารถใช้ได้ตามที่แพทย์สั่งเท่านั้นเพื่อป้องกันผลข้างเคียงอันตรายอื่น ๆ
วิธีใช้ยาไมนอกซิดิลแบบทา
ควรทำความสะอาดศีรษะและซับให้แห้งก่อนใช้ยา จากนั้นให้ทายาบริเวณที่ต้องการให้ผมงอกใหม่ โดยจะต้องให้ตัวยาสัมผัสกับหนังศีรษะให้มากที่สุดในปริมาณ 1 มิลลิลิตร วันละ 2 ครั้ง ช่วงเช้าและก่อนนอน หรือตามคำแนะนำจากแพทย์
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้ยาไมนอกซิดิล
ถึงผลข้างเคียงจากยาไมนอกซิดิลเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีอาการผมร่วง จนนำมาใช้รักษาผมร่วงได้ แต่ยาไมนอกซิดิลยังมีผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจเป็นอันตรายอยู่อีกด้วย ดังนี้
- การเต้นของหัวใจเกิดความผิดปกติ
- คลื่นไส้ อาเจียน
- เจ็บหน้าอก เจ็บเต้านม
- หายใจลำบาก แน่นหน้าอก
- แพ้ ระคายเคืองและคัน
- อาการบวมตามขา เท้า ข้อเท้า
วิธีเก็บรักษายาไมนอกซิดิล
ควรเก็บยาไมนอกซิดิลที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงความร้อน แสงแดด และความชื้น ไม่ควรเก็บยาไมนอกซิดิลในช่องแช่แข็ง หรือวางไว้ในที่ชื้นมากอย่างในห้องน้ำ เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของยา
ต้องใช้ยาไมนอกซิดิลกี่เดือนจึงจะเห็นผล
การเปลี่ยนแปลงจะเห็นผลชัดเจนเมื่อใช้ยาไมนอกซิดิลต่อเนื่อง 3-6 เดือนขึ้นไป โดยปริมาณยาที่ควรใช้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้
ยา minoxidil แบบกิน
- ผู้ใหญ่ควรกิน 5 มิลลิกรัมต่อวัน
- ผู้สูงอายุควรกิน 2.5 มิลลิกรัมต่อวัน
minoxidil แบบทา
- ยาไมนอกซิดิลแบบน้ำ ใช้ในปริมาณ 1 มิลลิลิตรต่อวัน
- ยาไมนอกซิดิลแบบสเปรย์และโฟม ใช้ในปริมาณ 1 ปั้มต่อวัน
ยาไมนอกซิดิลราคาเท่าไหร่
ยาไมนอกซิดิลสำหรับรักษาอาการผมร่วงสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาหรือจัดยาโดยแพทย์ ยาไมนอกซิดิล ราคาอยู่ที่ประมาณ 200-800 บาทขึ้นกับยี่ห้อและสถานที่จัดจำหน่วย
วิธีรักษาผมร่วงนอกจากการใช้ยา
การใช้ยารักษาผมร่วงอาจไม่เหมาะกับบางคน แล้วจะมีวิธีอื่นหรือไม่ที่จะสามารถกู้คืนเส้นผมของเรากลับมาได้ ทาง Absolute Hair Clinic มีวิธีรักษาผมร่วงทางอื่นนอกจากการใช้ยา ดังนี้
1. การปรับพฤติกรรม
สาเหตุของอาการผมร่วงในบางคนอาจเกิดมาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทำให้เส้นผมอ่อนแอและร่วงง่าย เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ทำให้ผมได้รับสารอาหารไม่เพียงพอจนทำให้รากผมอ่อนแอ และผมร่วงง่าย
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเส้นผมที่มีสารเคมีมาก ทำให้หนังศีรษะอ่อนแอจนผมร่วง หรือการสระผมอย่างผิดวิธีก็ทำให้ผมร่วงได้เช่นกัน
ดังนั้นการแก้ปัญหาผมร่วงจากสาเหตุเหล่านี้คือการแก้ไขพฤติกรรมที่ทำให้ผมร่วง เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินต่าง ๆ และธาตุเหล็กอีกหลาย ๆ ชนิดที่ช่วยให้เส้นผมและรากผมแข็งแรง
รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกันเส้นผมและหนังศีรษะที่มีสารเคมีรุนแรง เช่น ยาย้อมผม ยาดัดผม สเปรย์ตกแต่งทรงผม แชมพูที่มีสารเคมีมากหรือมีสาร SLS และการสระผมอย่างถูกวิธี ใช้น้ำอุณหภูมิปกติ และไม่ขยี้หรือเกาหนังศีรษะแรง ๆ
แนะนำอาหารที่มีส่วนช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง ลดผมขาดหลุดร่วง อ่านได้ที่บทความ 10 อาหารบำรุงผม สารอาหารบํารุงผมดกดำ รักษาผมร่วง ผมบาง จากภายใน
2. การรักษาแบบทางเลือก
นอกจากการใช้ยารักษาผมร่วงแล้ว ยังมีวิธีรักษาแบบอื่น ๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาผมร่วงผมบางได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น
- การฉีดเกล็ดเลือดเข็มข้น Platelet Rich Plasma
การทำ PRP ผม เป็นการนำเลือดของผู้เข้ารับการรักษามาปั่นเหวี่ยงเพื่อนำเฉพาะเกล็ดเลือดที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างผม จากนั้นจะนำเกล็ดเลือดของผู้เข้ารับการรักษาที่แยกออกมาแล้วฉีดเข้าไปที่หนังศีรษะ เมื่อหนังศีรษะได้รับเกล็ดเลือดที่มีสารอาหารมากพอ ก็จะช่วยให้รากผมได้รับสารอาหารมากขึ้น และทำให้เกิดการสร้างผมขึ้นมาใหม่ได้
- ฉีดสเต็มเซลล์ผม (Rigenera Activa)
การฉีดสเต็มเซลล์ผม จะคล้ายกับการทำ PRP ผม แต่เปลี่ยนจากเกล็ดเลือดของผู้เข้ารับการรักษา เป็นเซลล์ที่สกัดจากรากผมและน้ำเกลือแทน เมื่อฉีดเข้าไปที่หนังศีรษะจะช่วยให้ผมแข็งแรงขึ้น และลดการทำงานของฮอร์โมนที่ส่งผลให้เกิดอาการผมร่วงอีกด้วย
- การใช้เลเซอร์รักษาผมร่วง
การใช้เลเซอร์เพื่อรักษาผมร่วง มีทั้งหมด 2 วิธี ได้แก่ การทำ Fotona laser และ LLLT โดยเลเซอร์จะไปช่วยกระตุ้นรากผม ช่วยให้เซลล์บริเวณนั้นทำงานดีขึ้น ผมแข็งแรง ไม่ร่วงง่าย และยังช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้นในบริเวณที่ทำเลเซอร์อีกด้วย
3. ศัลยกรรมปลูกผมถาวร
ในกรณีที่มีอาการผมร่วงรุนแรง หรือหัวล้าน และผ่านการรักษาด้วยการใช้ยาก็แล้วหรือวิธีอื่น ๆ ก็ยังไม่ดีขึ้น อาจต้องใช้การศัลยกรรมปลูกผมเพื่อแก้ปัญหา โดยการปลูกผมก็ยังมีอีกหลายวิธี เช่น ปลูกผม FUT และ ปลูกผม FUE โดยแพทย์จะพิจารณาวิธีรักษาที่เหมาะสมกับผู้เข้ารับการรักษาด้วยเงื่อนไขต่าง ๆ เช่น สภาพเส้นผม หนังศีรษะ งบประมาณ เป็นต้น
ปรึกษาปัญหาผมร่วงกับ Absolute Hair Clinic
หากท่านเป็นหนึ่งในผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางและอยากหาวิธีรักษาที่ผลลัพธ์ดีและเหมาะสมกับท่าน ที่ Absolute Hair Clinic คลินิกเชี่ยวชาญทางด้านเส้นผม มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและหนังศีรษะที่มากประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะของท่าน
นอกจากนี้ยังมีทางเลือกการรักษาที่หลากหลายให้ผู้เข้ารับการรักษาได้เลือก ไม่ว่าจะเป็นการรักษาโดยใช้ยา Minoxidil, Finasteride หรือการรักษาด้วยทางเลือกอื่น ๆ อย่างการทำ PRP ผม ฉีดสเต็มเซลล์ผม เลเซอร์รักษาผมร่วง หรือการปลูกผมถาวร และมั่นใจได้ว่าสถานที่รักษามีความสะอาด ปลอดภัย เดินทางสะดวก
สำหรับผู้ที่สนใจรักษาอาการผมร่วง ผมบาง หัวศีรษะล้านสามารถติดต่อ Absolute Hair Clinic ได้ที่
ที่อยู่ : 134/2 ถนนกรุงธนบุรี (ใกล้ซอย 8, หรือมาบีทีเอส กรุงธนบุรี ทางออก4) แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร 10600
เวลาทำการ : วันจันทร์ ถึง วันอาทิตย์ 09.00 น. – 18.00 น.
Email: consultabsolutehairclinic@gmail.com
Line: @Absolutehairclinic
โทร 087-275-2989, 095-927-3938
ข้อสรุป
ยาไมนอกซิดิล (Minoxidil) เป็นหนึ่งในยารักษาอาการผมร่วง ผมบางที่นิยมใช้ในปัจจุบัน โดยมีทั้งแบบรับประทานและแบบใช้ภายนอกที่มีข้อเด่นข้อด้อยแตกต่างกันไป แต่อย่างไรก็ตามการใช้ยารักษาผมร่วงอาจต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน อาจจำเป็นต้องใช้ความสม่ำเสมอในการใช้ยาและความอดทนเพื่อให้ผลลัพธ์การใช้ยาประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ไม่ควรซื้อยามาใช้เอง เพราะปริมาณยาที่เหมาะสมในแต่ละคนแตกต่างกัน ควรใช้ยาตามแพทย์หรือเภสัชแนะนำอย่างเคร่งครัด
หากท่านมีข้อสงสัย อยากขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทาง Absolute Hair Clinic ยินดีให้บริการ ท่านสามารถส่งข้อความหรือรูปเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ Line: @Absolutehairclinic