ยาปลูกผมตามท้องตลอดที่เราเห็นกัน มีมากมายหลายยี่ห้อ และมาในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเซรั่ม โลชั่น ยา หรืออาหารเสริม ส่วนผสมก็แตกต่างกันมาก มีทั้งแบบที่มีตัวยา มีสารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิด หรือมีสมุนไพรต่างๆผสมอยู่
ยาปลูกผมเหล่านี้สามารถใช้ได้จริงหรือไม่ อันตรายหรือเปล่า และจะเห็นผลจริงหรือ?
ทำความรู้จัก ‘ยาปลูกผม’
ยาปลูกผม หรือยาแก้ผมร่วง คือยาที่ใช้สำหรับแก้ไขอาการผมร่วง ผมบาง หากยาออกฤทธิ์ได้ดีจะทำให้ผมในบริเวณที่มีผมเส้นเล็กบางจนเกือบมองไม่เห็น กลับมาขึ้นหนาอย่างเห็นได้ชัด หลายคนจึงเรียกยาดังกล่าวว่ายาปลูกผม
ในความเป็นจริงแล้วยาเหล่านี้จะออกฤทธิ์ปรับปรุงปัจจัยบางอย่างในร่างกาย ทำให้ผมที่เส้นเล็กบางหนาขึ้น แต่ยาปลูกผมไม่สามารถแก้หัวล้าน หรือทดแทนการปลูกผมจริงๆได้ เนื่องจากในกรณีที่หัวล้าน รากผมจะฝ่อไปแล้ว ไม่สามารถปรับปรุงปัจจัยใดๆที่จะทำให้ผมกลับมาขึ้นได้
หากผมร่วงหัวล้านในลักษณะนี้ ยาปลูกผมจะใช้ไม่ได้ผล ทางรักษาเดียวคือการผ่าตัดปลูกผมจริง ที่ต้องย้ายรากผมจากบริเวณอื่นมาปลูกเท่านั้น
การปลูกผมมี 2 แบบ แต่ละแบบคืออะไร แตกต่างกันอย่างไร? :
ยาปลูกผมที่ได้รับการรับรองทางการแพทย์แล้ว มีเพียงตัวยา 2 ตัวนี้เท่านั้น ได้แก่ ฟิแนสเทอไรด์ และไมนอกซิดิล
ยาฟิแนสเทอไรด์ (Finasteride)
ยาปลูกผมฟิแนสเทอไรด์ คือยาปลูกผมผู้ชายชนิดเม็ด ซึ่งจะออกฤทธิ์ลดเอนไซม์ที่ช่วยเปลี่ยนฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ให้กลายเป็นฮอร์โมน DHT ฮอร์โมนที่เป็นต้นเหตุหลักของอาการผมร่วงหัวล้านในเพศชาย
ยาที่มีส่วนผสมของฟิแนสเทอไรด์ สามารถลดปริมาณฮอร์โมน DHT ได้มากถึง 60% นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นรากผม ให้รากผมสร้างผมได้ดีขึ้น ทำให้ผมที่งอกออกมาเส้นหนาขึ้นแก้ไขปัญหาผมร่วงต่างๆได้ ทั้งผมร่วงจากฮอร์โมน DHT และผมร่วงกรรมพันธุ์ แต่ก็รักษาได้เพียงระยะเริ่มต้นและปานกลางเท่านั้น หากหัวล้านและรากผมฝ่อไปแล้ว จะไม่สามารถรักษาได้
ยาปลูกผมฟิแนสเทอไรด์ไม่ได้ออกฤทธิ์จนเห็นผลได้ทันทีหลังใช้งาน ผู้ใช้ยาจะเริ่มเห็นผลเมื่อใช้อย่างต่อเนื่องประมาณ 4 – 6 เดือน จะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนเมื่อใช้ต่อเนื่องกัน 1 ปี และหากหยุดใช้ อาการผมร่วงหัวล้านจะกลับมาดังเดิม
ยาไมนอกซิดิล (Minoxidil)
ยาไมนอกซิดิล คือยาแก้ผมร่วงที่ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่มักจะถูกเรียกว่ายาปลูกผมผู้หญิง เนื่องจากเป็นยาตัวเดียวที่รับรองแล้วว่าสามารถใช้รักษาอาการผมร่วง ผมบางในผู้หญิงได้ โดยเฉพาะผมร่วงจากผมบางกรรมพันธุ์ในผู้หญิง ที่เป็นต้นเหตุของอาการหัวล้านในผู้หญิง
ยาไมนอกซิดิลจะออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือด เมื่อเลือดเข้าถึงรากผมได้ดีขึ้น จะทำให้รากผมสุขภาพดีขึ้น ทั้งยังไปกระตุ้นรากผมให้รากผมงอกผมได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผมที่งอกออกมาเส้นใหญ่ หนา และแข็งแรง
ยาไมนอกซิดิลมีทั้งชนิดเม็ดใช้ทาน และชนิดน้ำใช้ทาภายนอก ไมนอกซิดิลชนิดเม็ดมีเพียงขนาด 5 มิลลิกรัม มีผลข้างเคียงเยอะกว่าเมื่อเทียบกับแบบน้ำ ส่วนแบบน้ำทาภายนอกมีชนิด 2% Minoxidil และ 5% Minoxidil แบ่งออกตามความเข้มข้นของตัวยา
ในไมนอกซิดิลชนิดน้ำก็มีผลข้างเคียงเช่นกัน ในผู้ชายสามารถใช้ได้ทั้งแบบ 2% และ 5% แต่จะใช้แบบ 5% ได้เห็นผลมากกว่า ส่วนในผู้หญิงทั้งชนิด 2% และ 5% ให้ผลไม่ต่างกัน แพทย์จึงแนะนำให้ใช้แบบ 2% เนื่องจากแบบ 5% จะทำให้เกิดผลข้างเคียงได้มากกว่า
ยาที่มีส่วนผสมของไมนอกซิดิลทั้งสองแบบ ต้องใช้อย่างต่อเนื่องกันเป็นเวลามากกว่า 6 เดือนจึงจะเริ่มเห็นผล แต่ถ้าต้องการเห็นผลชัดเจนควรใช้อย่างน้อย 1 ปี และใช้อย่างต่อเนื่อง หากหยุดใช้อาการผมร่วงผมบางจะกลับมาดังเดิม
ยาปลูกผมทุกชนิดมีผลข้างเคียง แม้แพทย์จะเป็นผู้เลือกยาให้เหมาะสมกับสาเหตุของอาการแล้วก็ตาม แต่ถ้าซื้อมาใช้เอง ใช้ยาไม่เหมาะสม อาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้
ยาฟิแนสเทอไรด์ที่เป็นยากินปลูกผมของผู้ชาย มีผลข้างเคียงคือจะทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลง อารมณ์ทางเพศน้อยลง อวัยวะเพศแข็งตัวยากขึ้น และน้ำอสุจิลดลง เนื่องจากยาจะลดการสร้างฮอร์โมน DHT ที่นอกจากจะเป็นตัวการของอาการผมร่วงแล้ว ยังเป็นฮอร์โมนที่ทำให้ร่างกายแสดงอัตลักษณ์ทางเพศด้วย ดังนั้นการลดลงของระดับฮอร์โมนตัวนี้จะมีผลกับระบบสืบพันธุ์ด้วยนั่นเอง
แต่ผลข้างเคียงนี้ก็ไม่ได้เป็นอันตราย และไม่ได้เป็นเรื้อรัง หากหยุดยาอาการจะกลับมาเป็นปกติ หรือหากใช้ยาต่อเนื่องไปสักระยะหนึ่ง ร่างกายจะปรับตัว และไม่เกิดอาการของผลข้างเคียงขึ้น
แต่ถ้าใช้ยาฟิแนสเทอไรด์เป็นยาปลูกผมผู้หญิงจะอันตรายมาก เพราะนอกจากจะไม่ช่วยให้รักษาอาการผมร่วงผมบางที่ต้นเหตุแล้ว ยังทำให้เกิดผลข้างเคียงในกรณีที่กำลังตั้งครรภ์ หากกินยา หรือแค่สัมผัสตัวยา ก็สามารถทำให้เด็กในครรภ์มีภาวะอวัยวะเพศกำกวมได้ (Ambiguous genitalia หรือ Intersex) ยาฟิแนสเทอไรด์จึงยังไม่ได้รับอนุญาติให้ใช้กับเพศหญิงในปัจจุบัน
ส่วนยาไมนอกซิดิล ยาแบบเม็ดสำหรับรับประทานจะให้ผลที่ค่อนข้างดี แต่ก็มีข้อจำกัดเยอะ และมีผลข้างเคียงมาก เนื่องจากตัวยาจะออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือกทั้งร่างกาย ไม่ใช่แค่ในบริเวณหนังศีรษะที่ต้องการให้ออกฤทธิ์
ยากินปลูกผมไมนอกซิดิลอาจพบผลข้างเคียงคือ อาการบวมที่ใบหน้า แขน และขา รู้สึกเวียนหัว หอบ เหนื่อย หัวใจเต้นเร็วจากความดันที่เปลี่ยนไป ยาอาจทำให้ขนขึ้นที่ใบหู หรือทำให้ผมร่วงมากกว่าเดิมในช่วงแรกที่ใช้ แต่ถ้าปรึกษาแพทย์และต้องใช้ไมนอกซิดิล แพทย์จะให้ใช้ยาร่วมกับยาตัวอื่นเพื่อควบคุมอาการข้างเคียง ดังนั้นผู้ที่สนใจใช้ยาจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อน
ส่วนยาไมนอกซิดิลแบบน้ำทาภายนอก จะมีผลข้างเคียงน้อยกว่าแบบเม็ดมาก เนื่องจากตัวยาที่ซึมเข้าสู่ผิวจะออกฤทธิ์เฉพาะที่เท่านั้น ยาอาจจะทำให้ผิวบริเวณที่ทานั้นแห้ง เนื่องจากตัวยาแบบน้ำมักมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ ส่วนผลข้างเคียงอื่นๆแบบยาชนิดเม็ดก็สามารถพบได้ แต่จะพบน้อยมาก
ทั้งนี้ ไมนอกซิดิลทั้งสองชนิดยังมีข้อจำกัดอยู่มาก ไม่ควรใช้ในผู้ที่มีประวัติแพ้ยา เป็นโรคไต มีภาวะหัวใจล้มเหลว เป็นโรคหัวใจ เป็นหอบหืด ไมเกรน และโรคลมชัก หรือหากใช้แล้วมีอาการระคายเคืองมาก เป็นลมพิษ หน้าบวม คอบวม ควรหยุดยาและรีบปรึกษาแพทย์ทันที
ใช้ยาปลูกผมแล้วไม่ได้ผล เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งใช้ยาไม่ตรงกับสาเหตุอาการผมร่วง ผมบาง หรือใช้ในกรณีที่ปัญหาผมร่วงไม่สามารถรักษาได้ด้วยยาปลูกผม
กรณีที่ใช้ยาไม่ตรงกับสาเหตุอาการผมร่วง เช่น ในผู้ชายอาจจะผมร่วงด้วยสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่ฮอร์โมน อย่างการขาดธาตุเหล็ก สูบบุหรี่จนความดันสูง หรือเส้นเลือดฝอยน้อยเกินไป หากใช้ยาฟิแนสเทอไรด์ที่ช่วยลดฮอร์โมน ก็จะรักษาผมร่วงไม่ได้ผล
ส่วนในกรณีที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยยาปลูกผม จะเป็นกรณีที่รากผมฝ่อไปแล้ว การที่รากผมฝ่อเกิดได้จากหลายสาเหตุ ส่วนสาเหตุหลักได้แก่ ฮอร์โมน DHT และ การขาดเลือดเป็นเวลานาน
ฮอร์โมน DHT จะส่งผลกับรากผม โดยเฉพาะในผู้ชายที่มีอาการหัวล้านกรรมพันธุ์ ผู้ที่มีอาการนี้ จะมีตัวรับฮอร์โมนที่รากผม (Androgen Receptor) ที่ทำงานได้ดีกว่าปกติ ทำให้ฮอร์โมน DHT ออกฤทธิ์ได้มาก
ฮอร์โมน DHT จะทำให้รากผมมีระยะสร้างผมที่สั้นลง ระยะพักการสร้างผมยาวนานขึ้น ทำให้สามารถสร้างผมได้เส้นสั้นลงเรื่อยๆ ในที่สุดระยะพักการสร้างผมจะยาวนานจนรากผมไม่สร้างผมอีก ในขณะเดียวกัน ฮอร์โมนดังกล่าวจะทำให้รูขุมขนแคบลงเรื่อยๆ รากผมจึงสร้างเส้นผมได้บางลง เมื่อถึงจุดหนึ่งรูขุมขนจะแคบจนไม่สามารถสร้างเส้นผมออกมาได้อีก และรากผมจะฝ่อลงในที่สุด
ส่วนการขาดเลือด จะเกิดจากหลายสาเหตุ โดยเฉพาะการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ทำให้หลอดเลือดหดตัวและความดันสูงอย่างเรื้อรัง เมื่อผ่านไประยะหนึ่งเส้นเลือดฝอยที่ไปเลี้ยงรากผมจะถูกทำลายจากความดันที่สูงเกินไป สารอาหารต่างๆที่ไปเลี้ยงรากผมผ่านทางเลือด จะไปที่รากผมได้น้อยลง ในที่สุดรากผมที่ไม่ได้รับเลือดเพียงพอก็จะหยุดสร้างเส้นผมและฝ่อไป
หากรากผมฝ่อไปแล้ว ยาปลูกผมจะไม่สามารถใช้รักษาอาการผมร่วงหัวล้านได้ จำเป็นต้องปลูกผมเพื่อย้ายรากผมจากที่ท้ายทอยมาปลูกเท่านั้น
แล้วยาปลูกผมที่เห็นผลจริง มีหรือไม่? คำตอบคือแม้แต่แพทย์ก็ไม่สามารถรับประกันได้ เนื่องจากร่างกายของแต่ละคนตอบสนองกับตัวยาแตกต่างกัน แพทย์ทำได้เพียงเลือกใช้ยาให้ตรงกับสาเหตุผมร่วง และหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่จะเกิดกับผู้เข้ารับการรักษาให้ได้มากที่สุด
แต่การรักษากับแพทย์นั้นดีกว่าการซื้อยามาใช้เอง หากรักษาไม่ได้ผล แพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผมและหนังศีรษะ ยังคงสามารถแนะนำการรักษาวิธีอื่นๆ ที่สามารถช่วยรักษาอาการผมร่วงผมบางได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด
หากให้แนะนําน้ํายาปลูกผม ทั้งเซรั่มปลูกผม โลชั่น สเปรย์ หรืออาหารเสริมปลูกผมใดๆ ก็ตามที่อยู่ในท้องตลาด อยากแนะนำให้ดูส่วนผสมมากกว่าแนะนำยี่ห้อ เนื่องจากผู้ที่มีปัญหาผมร่วงแต่ละคน ก็มีสภาพเส้นผมและหนังศีรษะที่แตกต่างกันไป
ทั้งนี้ หากผมร่วงผมบางในระยะแรกสามารถซื้อยาปลูกผมมาทดลองใช้ได้เพราะแม้จะใช้ไม่ได้ผลก็ไม่ได้มีผลกระทบมากนัก แต่หากผมร่วงในระยะกลางหรือระยะรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ เพราะถ้าพลาดโอกาสการรักษาก่อนที่รากผมจะฝ่อไปแล้ว จะไม่สามารถรักษาอาการหัวล้านผมบางด้วยวิธีการที่ไม่ต้องผ่าตัดได้อีก
การเลือกน้ำยาปลูกผมสำหรับใช้ภายนอก ควรดูจากตัวยา หากมีตัวยาไมนอกซิดิลอยู่ด้วยก็สามารถใช้ได้ และมีโอกาสที่จะเห็นผลมากกว่าน้ำยาปลูกผมที่มีเฉพาะสารสกัดจากพืชเพียงอย่างเดียว แต่ก็ควรดูความเข้มข้นด้วยหากกลัวแพ้ก็อาจจะเริ่มใช้ที่ 2% Minoxidil ถ้าอยากเห็นผลลัพธ์มากขึ้นในผู้ชายก็อาจเพิ่มความเข้มข้นเป็น 5% ในภายหลัง
ส่วนผสมอื่นๆ หากเป็นสมุนไพรธรรมดา ไม่ใช่สารสกัดจากสมุนไพร อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก ทั้งยังอาจก่อให้เกิดการแพ้ด้วย ส่วนสมุนไพรที่ผ่านงานวิจัยรับรองแล้วว่าสามารถช่วยลดอาการผมร่วงได้ เช่น สารสกัดจากดอกชบา สารสกัดจากโสม คาเฟอีน น้ำมันจากเมล็ดฟักทอง น้ำมันสะระแหน่ หรือน้ำมันโรสแมรี่ ก็อาจทำให้เห็นผลได้มากกว่า และมีความเสี่ยงต่อการแพ้น้อยกว่า
ทั้งนี้ สารสกัดบางอย่างยังคงผ่านการทดลองแค่ในสัตว์เท่านั้น การนำมาใช้ในคนเลยอาจไม่ได้เป็นอันตรายอะไร เพียงแต่อาจจะไม่เห็นผล ดังนั้นหากอยากใช้ก็สามารถทดลองเปลี่ยนยี่ห้อ เปลี่ยนส่วนผสมไปเรื่อยๆได้จนกว่าจะเจอส่วนผสมที่สามารถใช้ได้ผล
นอกจากส่วนผสมที่แก้อาการผมร่วงแล้ว ส่วนผสมที่เพิ่มความชุ่มชื้นก็สามารถช่วยได้ ความชุ่มชื้นจะปรับสมดุลให้หนังศีรษะ ไม่มันเกินไป ไม่แห้งเกินไป ลดโอกาสเกิดสิวที่หัว รังแค หนังศีรษะลอก หรือหนังศีรษะอักเสบ
การเลือกอาหารเสริมปลูกผม ก็เป็นเรื่องยากไม่แพ้กัน หากทานอาหารครบ 5 หมู่อยู่แล้ว ทานโปรตีนเป็นประจำแล้วผมยังร่วงอยู่ อาจจะลองทานอาหารเสริมได้ อาหารเสริมที่นิยมทานกันเพื่อเป็นยาปลูกผม ได้แก่ ไบโอติน สังกะสี และธาตุเหล็ก
ไบโอตินและสังกะสี นิยมทานกันเพื่อช่วยให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น และกระตุ้นการสร้างเคราติน ส่วนธาตุเหล็กจะช่วยบำรุงเลือด ให้สารอาหารที่ทานเข้าไป ไปเลี้ยงรากผมได้ดีมากขึ้น
อาหารเสริมเหล่านี้ไม่ได้มีผลเสียอะไร สามารถลองทานไปเรื่อยๆได้ แต่ไม่ควรทานในปริมาณมากๆติดต่อกันนานเกินไป เพราะร่างกายอาจได้รับสารอาหารมากเกินความจำเป็น จนเกิดผลเสียกับระบบขับของเสียของร่างกายในระยะยาวได้ ทางที่ดีหากทานอาหารบำรุงผมที่มีส่วนประกอบของไบโอติน สังกะสี และธาตุเหล็กได้ ก็จะดีต่อสุขภาพมากกว่า
ที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาปลูกผม ยาปลูกผม หรืออาหารเสริมปลูกผม สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีเครื่องหมายรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เพื่อรับรองความปลอดภัย ว่าในน้ำยาปลูกผมและอาหารเสริมต่างๆจะไม่มีสารอันตรายอยู่ด้านใน
การใช้ยาปลูกผมควบคู่กับการรักษารูปแบบอื่น
เพราะยาปลูกผมต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล อีกทั้งยังต้องใช้ยาต่อเนื่อง ผู้ที่ต้องการรักษาผมร่วง ผมบางด้วยวิธีนี้จำเป็นต้องมีวินัยในตัวเองสูง เพื่อให้การรักษาเห็นผลตามที่คาดหวังไว้ หากไม่สะดวกทานยา หรือไม่สามารถเตือนตัวเองให้ทานยาทุกวันได้ อาจจะต้องใช้การรักษาอื่น รักษาควบคู่ไปด้วย
นอกจากยาปลูกผมแล้ว ยังมีการรักษาแบบอื่นๆอีก ที่สามารถใช้รักษาอาการผมบาง ผมร่วง หัวล้าน ควบคู่ไปกับการใช้ยาปลูกผม หรือสามารถใช้ทดแทนเลยก็ได้หากไม่ต้องการใช้ยา หรือไม่สามารถใช้ยาได้ โดยการรักษาควบคู่ดังกล่าว มีดังนี้
ฉีดสเต็มเซลล์รากผม
การฉีดสเต็มเซลล์รากผม เป็นการนำสเต็มเซลล์ที่ยังไม่โตเต็มวัย มาปั่นแยกให้เป็นเซลล์ขนาดเล็กโดยเครื่อง Rigenera Activa แล้วฉีดกลับเข้าไปที่หนังศีรษะ
สเต็มเซลล์จะกระจายไปตามเนื้อเยื่อต่างๆบนหนังศีรษะ พัฒนาเต็มวัย และช่วยในการทำงานของระบบต่างๆบนหนังศีรษะ ทั้งเซลล์รากผม ต่อมไขมัน หรือแม้แต่หลอดเลือดบริเวณรากผม เพื่อให้รากผมสร้างผมได้ดีขึ้น
การฉีดสเต็มเซลล์รากผมแทบไม่มีผลข้างเคียงเลย เนื่องจากสารที่ฉีดเข้าไป เป็นสเต็มเซลล์จากหนังศีรษะของผู้เข้ารับการรักษาเอง กับน้ำเกลือที่ช่วยเพิ่มความชื้นที่เติมเข้าไปเพื่อการปั่นแยกในเครื่องปั่นเซลล์เท่านั้น ทำให้สารที่ฉีดเข้าไปไม่มีสารเคมีอันตรายใดๆอยู่เลย
ฉีด PRP ผม
การฉีด PRP ผม เป็นการฉีดสาร PRP หรือ Platelet Rich Plasma เข้าไปที่หนังศีรษะ สารดังกล่าวจะไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์ ซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย ฟื้นฟูให้รากผมที่เสียหายจากฮอร์โมนหรือการขาดเลือด ให้กลับมาทำงานได้มีประสิทธิภาพอีกครั้ง
การฉีด PRP มีความเสี่ยงน้อยมากเช่นเดียวกัน เนื่องจาก PRP เป็นน้ำเลือดของผู้เข้ารับการรักษาเอง ก่อนการรักษาแพทย์จะเจาะเลือดออกมาเล็กน้อย และนำเข้าเครื่องหมุนเหวี่ยงให้เลือดแยกชั้นออกมาจากน้ำเลือด น้ำเลือดนั้นจะเต็มไปด้วยสารที่มีประโยชน์ต่างๆ และมีสารช่วยลดการแข็งตัวของเลือดเล็กน้อย ทำให้การฉีด PRP นั้นค่อนข้างปลอดภัยมาก
โฟโตน่าเลเซอร์ (Fotona Laser)
Fotona Laser เป็นเลเซอร์พลังงานต่ำที่ใช้ในการปลูกผม แต่เดิมเลเซอร์ตัวนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้กำจัดขน แต่ในปัจจุบันงานวิจัยพบว่าเลเซอร์ตัวดังกล่าวหากใช้ในพลังงานที่ต่ำลง จะสามารถกระตุ้นรากผมได้ดีมาก
ในการรักษา แพทย์จะใช้คลื่นความถี่ที่ต่างกันสองตัว ยิงเข้าที่ศีรษะ เป็นการกระตุ้นหนังศีรษะให้เซลล์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รากผมจะถูกกระตุ้นให้สร้างผมได้มากขึ้น มีการสร้างเส้นเลือดฝอยมากขึ้น ทั้งยังเป็นการรักษาที่ปลอดภัยมาก เนื่องจากต้องควบคุมดูแลทุกขั้นตอนโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
ที่ Absolute Hair Clinic เราเป็นเจ้าแรกในไทยที่นำเทคโนโลยีนี้เข้ามารักษาอาการผมร่วงผมบาง ทำให้มั่นใจได้ว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญจริง สามารถรับรองความปลอดภัยให้กับผู้เข้ารับการรักษาได้
เลเซอร์ LLLT
เลเซอร์ LLLT เป็นเลเซอร์สีแดงพลังงานต่ำ เมื่อฉายลงที่หนังศีรษะ เลเซอร์จะให้พลังงานกับเซลล์ในบริเวณนั้น ทำให้เซลล์ทำงานได้ดีขึ้น รากผมงอกผมได้ดีขึ้น ในระยะยาวจะทำให้เส้นผมหนาขึ้น เส้นเลือดฝอยบนศีรษะมากขึ้น แต่ใช้เวลาเห็นผลค่อนข้างนาน และต้องทำที่บ้านเป็นประจำอีกด้วย
แต่ข้อดีก็คือเลเซอร์ตัวดังกล่าวสามารถซื้อมาใช้เองที่บ้านได้ ทั้งยังมีหลายแบบให้เลือก บางแบบที่มีขนาดเล็ก เช่น แบบหวี หรือแบบหมวกแก๊ป ทำให้สามารถพกพาได้สะดวก
ยาปลูกผมที่ดีที่สุด คือยาปลูกผมที่เหมาะกับปัญหาผมของผู้เข้ารับการรักษามากที่สุด ที่ Absolute Hair Clinic เรามีบริการให้คำปรึกษาปัญหาผม รวมถึงการใช้ยาปลูกผม ว่าปัญหาผมที่กำลังเป็น ควรใช้ยาตัวใด ปริมาณเท่าไหร่ และต้องใช้บ่อยแค่ไหน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ผลข้างเคียงต่ำ
รวมทั้งเสนอแนะการรักษาควบคู่ที่จะทำให้ยาปลูกผมเห็นผลมากขึ้น หรือในกรณีที่ไม่สามารถใช้ยาปลูกผมได้ แพทย์ก็จะแนะนำการรักษาทางเลือกอื่นๆที่เหมาะกับผู้เข้ารับการรักษา เพื่อรักษาให้ตรงจุด แก้ไขอาการผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านที่ต้นเหตุ
ยาปลูกผม รีวิวผู้เข้ารับคำปรึกษาการใช้ยาปลูกผมจาก Absolute Hair Clinic
ข้อสรุป
ยาปลูกผมที่ผ่าน อย.แล้ว สามารถซื้อมาทดลองใช้ได้หากเพิ่งเริ่มมีอาการผมร่วง ผมบาง ผลิตภัณฑ์ตามท้องตลาดที่่มี อย. อาจมีส่วนผสมที่ทำให้ผมร่วงน้อยลงได้โดยไม่มีอันตรายอะไร แต่หากผมร่วงผมบางค่อนข้างมากจนเห็นได้ชัดจากภายนอก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาโดยใช้ยาหรือการรักษาทางเลือกอื่นที่กำกับโดยแพทย์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการรักษาที่เห็นผล ก่อนจะหัวล้าน รากผมฝ่อจนสายเกินแก้ไข
ผมร่วง ผมบาง ต้องการปรึกษาการใช้ยาปลูกผม สามารถทักเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดและนัดเวลาแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผมและหนังศีรษะจากทาง Absolute Hair Clinic ได้ที่ Line: @Absolutehairclinic