ยาดูทาสเตอไรด์ เป็นยารักษาผมร่วงตัวใหม่ ที่คิดค้นขึ้นใหม่เพื่อใช้รักษาโรคผมร่วงผมล้านที่มีประสิทธิภาพ
สูงขึ้น แต่เนื่องจากเป็นยาตัวตัวใหม่ ที่พึ่งได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา หรือ อย. ซึ่งสรรพคุณหลักของตัวยา คือ การรักษาต่อมลูกหมาก ในเรื่องของการรักษาผมบางจากพันธุกรรม ยังรอการอนุมัติ
ดังนั้นหากมีการใช้งานทางการแพทย์ จะเป็นการใช้นอกข้อบ่งชี้ และแพทย์จะใช้เฉพาะเมื่อมั่นใจจริงว่าได้ผลชัดเจนเท่านั้น
สารบัญบทความ
- ยาดูทาสเตอไรด์ (Dutasteride)
- สรรพคุณของยาดูทาสเตอไรด์
- ยาดูทาสเตอไรด์ช่วยรักษาผมร่วงได้อย่างไร
- เปรียบเทียบยา Dutasteride และ Finasteride
- ยาดูทาสเตอไรด์เหมาะกับใคร
- ใครที่ไม่ควรใช้ยา Dutasteride
- ความเข้มข้นของยา Dutasteride ที่เหมาะสม
- คำแนะนำในการใช้ยา Dutasteride
- ข้อควรระวังสำหรับการใช้ยา Dutasteride
- ผลข้างเคียงที่อาจเกิดเมื่อใช้ยาดูทาสเตอไรด์
- วิธีเก็บรักษายาดูทาสเตอไรด์
- แนะนำทางเลือกอื่นในการรักษาผมร่วง
- ปรึกษาการใช้ยารักษาผมร่วงกับ Absolute Hair Clinic
- สรุป
ยาดูทาสเตอไรด์ (Dutasteride)
ยาดูทาสเตอไรด์ (Dutasteride) ที่จำหน่ายทั่วไปภายใต้ชื่อแบรนด์ Avodart ที่มีสารยับยั้ง alpha-reductase 5 ชนิดนั้นได้รับการอนุมัติจาก FDA สำหรับรักษาต่อมลูกหมากโต แต่ถ้านอกฉลากก็คือ เพื่อรักษาอาการศีรษะล้านแบบผู้ชายหรืออาการผมร่วง
สรรพคุณของยาดูทาสเตอไรด์
ยาดูทาสเตอไรด์ เป็นยาที่สังเคราะห์ขึ้นใหม่หลังยาไฟแนสเตอไรด์ และได้รับการรับรองผลโดยสถาบันอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกา มีฤทธิ์ยับยั้งและเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเพศชาย Testosterone เป็น ฮอร์โมน DHT จึงทำให้ระดับ DHT ลดลงในกระแสเลือด และพบว่าสามารถรักษาอาการผมร่วงได้ผลดีกว่ายาไฟแนสเตอไรด์
- มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ 5-Alpha reductase type 1 และ type 2 ลด DHT ในเลือดได้ 93%
- อัตราส่วนความแรงหรือความสามารถของยาดูทาสเตอไรด์ในการยับยั้งเอนไซม์มากถึง 3 เท่าจึงลดระดับ DHT ที่หนังศีรษะได้ถึง 93%
- ยาดูทาสเตอไรด์ไม่มีผลต่อการทำงานของตับ ไต และ ระดับไขมันในเลือด
ยาดูทาสเตอไรด์ช่วยรักษาผมร่วงได้อย่างไร
ยาดูทาสเตอไรด์ช่วยรักษาผมร่วงและหัวล้านได้ เพราะตัวยาสามารถยับยั้งการสร้างฮอร์โมนตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (Dihydrotestosterone) หรือ DHT ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดผมร่วงหัวล้านได้
เปรียบเทียบยา Dutasteride และ Finasteride
ทั้งยา Dutasteride และ Finasteride เป็นยาที่ใช้รักษาโรคต่อมลูกหมากโตทั้งคู่ แต่มีผลพลอยได้ในการยับยั้งการสร้างฮอร์โมน DHT ที่เป็นตัวการที่ทำให้เกิดผมร่วงและหัวล้านกรรมพันธุ์ จึงนิยมนำมาใช้เป็นยาแก้ผมร่วง แต่ก็มีผลข้างเคียงเหมือนกันคือ อาจจะทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลง ปริมาณเชื้ออสุจิลดลงอย่างชัดเจน
ยา Finasteride
ยา Finasteride เป็นยาแก้ผมร่วงผมล้านในผู้ชายเท่านั้น ตัวยาที่มีฤทธิ์ยับยั้งฮอร์โมน DHT จะคงอยู่ในร่างกายครึ่งหนึ่ง
หลังจากกินไปแล้ว 6-7 ชั่วโมง เปอร์เซ็นต์ในการยับยั้งการสร้างฮอร์โมน DHT นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 70%
เมื่อกินยาปริมาณ 5 มิลลิกรัม
ยา Dutasteride
ยา Dutasteride ตัวนี้ได้ผลิตหลังจากตัวยา Finasteride แต่กลับมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการสร้าง
DHT ได้ถึง 90% เมื่อกินยาปริมาณแค่ 0.5 มิลลิกรัมเท่านั้น และยังคงอยู่ในร่างกายครึ่งหนึ่งยาวนาน
ถึง 5 สัปดาห์
ยาดูทาสเตอไรด์เหมาะกับใคร
ยาดูทาสเตอไรด์นั้นเป็นยากินแก้ผมร่วงที่เพิ่งมีได้ไม่นานนัก ทำงานคล้ายยาไฟแนสเตอไรด์ แต่มีประสิทธิภาพสูงกว่า ยาชนิดนี้เหมาะกับ
- คุณผู้ชายที่มีผมร่วงหัวล้านที่มีสาเหตุมาจากพันธุกรรม ยาดูทาสเตอไรด์ตัวนี้มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างฮอร์โมน “ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน” หรือ DHT ที่เป็นตัวการทำให้ผมร่วง
- คนที่มีปัญหาผมร่วงจากปัญหาฮอร์โมนเพศ และยังมีรากผมที่สามารถงอกได้อยู่
- คนที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นถึงปานกลาง เกี่ยวกับผมร่วงผมบางที่จากสาเหตุอื่น ๆ
ใครที่ไม่ควรใช้ยา Dutasteride
ถึงแม้ยา Dutasteride มีฤทธิ์ในการรักษาผมร่วงก็ตาม แต่พึงต้องระวังไม่นำไปใช้ในกลุ่มบุคคลต่อไปนี้
- ห้ามใช้ยากับผู้ที่มีประวัติแพ้ยานี้
- ห้ามใช้ยานี้กับ สตรี เด็ก และผู้สูงอายุ
- ห้ามใช้กับผู้ป่วยโรคตับที่อยู่ในระยะรุนแรง
ความเข้มข้นของยา Dutasteride ที่เหมาะสม
ตัวยาดูทาสเตอไรด์ที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ณ ปัจจุบันนี้ คือที่ ขนาด 0.5 มิลลิกรัม นั้นได้รับการรับรองการใช้งานทางการแพทย์ในปี 2001 ในสหรัฐอเมริกา และยังได้รับการรับรองสำหรับการรักษาผมร่วงแบบแอนโดรเจนในเพศชายในเกาหลีไต้และญี่ปุ่น
คำแนะนำในการใช้ยา Dutasteride
ก่อนตัดสินใจใช้ยาดูทาสเตอไรด์นั้น ขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะจัดเป็นยาอันตรายและมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ และปริมาณการใช้ก็แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
อีกทั้งยานี้เป็นยาที่ใช้กับผู้ชายที่มีปัญหาหัวล้านผมบางจากพันธุกรรมเท่านั้น ไม่ควรใช้ในผู้หญิง โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์เพราะจะส่งผลต่อการพัฒนาอวัยวะเพศในเด็กได้ อีกผลกระทบคือ สมรรถภาพทางเพศ หรือความต้องการทางเพศจะลดลง รวมทั้งปริมาณเชื้ออสุจิลดลงได้
ข้อควรระวังสำหรับการใช้ยา Dutasteride
การที่จะใช้ยา Dutasteride ควรศึกษาถึงข้อจำกัดและข้อควรระวังก่อนที่จะใช้ คือ
- ห้ามใช้ยานี้กับสตรีและวัยรุ่นที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
- ห้ามใช้กับผู้ป่วยโรคตับในระยะรุนแรง
- ห้ามใช้เป็นยาป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก
- ยานี้สามารถถูกดูดซึมผ่านเข้าทางผิวหนังได้ ขณะใช้ยานี้จึงห้ามใช้มือสัมผัสตัวยาโดยตรง
- ต้องมารับการตรวจร่างกายจากแพทย์เป็นระยะ ๆ ตามนัดหมาย เพื่อประเมินความก้าวหน้าและผลข้างเคียง
- ขณะรับยา หากเกิดอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ ให้หยุดกินและรีบพบแพทย์ เช่น ผื่นแพ้ทางผิวหนัง มะเร็งเต้านมในบุรุษ ปวดอัณฑะ อัณฑะบวม เป็นต้น
- ห้ามใช้ยาดูทาสเตอไรด์ที่มีสภาพแคปซูลปริแตกหรือเกิดการรั่วไหลของตัวยาออกมา
- สิ่งสำคัญ ห้ามใช้ยาดูทาสเตอไรด์ ร่วมกับยาที่มีฤทธ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์บางชนิดในร่างกาย เช่น Cytochrome P450 3A inhibitors, Calcium channel antagonists, Cholestyramine, Digoxin, Warfarin ยกเว้นจะได้มีคำสั่งจากแพทย์เท่านั้น
- เป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการทำให้สมรรถภาพทางเพศถดถอยลงได้มากขึ้น ถ้าใช้ยาดูทาสเตอไรด์ร่วมกับยา Amiodarone, Ciprofloxacin, Clarithromycin, Nifedipine, Amprenavir
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดเมื่อใช้ยาดูทาสเตอไรด์
ก่อนที่จะใช้ยาดูทาสเตอไรด์ ควรศึกษาถึงผลข้างเคียงที่จะตามมา สำหรับยาตัวนี้จะมีผลข้างเคียงที่ทำให้สมรรถภาพทางเพศถดถอยและเกิดอาการซึมเศร้า พึงระวังความเสี่ยงของการอาจก่อมะเร็งต่อมลูกหมาก ยาดูทาสเตอไรด์มีผลต่อระบบอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายดังนี้ เช่น ผลข้างเคียงต่อจิตใจ : ซึมเศร้า
วิธีเก็บรักษายาดูทาสเตอไรด์
เนื่องจากยาดูทาสเตอไรด์ถูกจัดเป็นยาอันตราย จึงควรเก็บรักษาแยกจากยาอื่น ๆ
- เก็บภายใต้อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส
- ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งตู้เย็น
- เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ห้ามเก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์
- ควรเก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อน และชื้น
แนะนำทางเลือกอื่นในการรักษาผมร่วง
ไม่มีใครที่อยากจะให้ผมร่วงเกิดขึ้นกับตนเองแน่นอน แต่ถ้าสุดวิสัยหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ จะต้องทำอย่างไร
ที่จะยับยั้งไม่ให้ผมร่วง ผมบางไปเรื่อย ๆ มีวิธีใดบ้างนอกจากการกินยา ทายา หรือเปล่า ? เราควรต้อง
ศึกษาถึงสาเหตุผมร่วงผมบางว่าเกิดจากอะไร จะได้ใช้ถูกวิธีในการรักษาผมร่วง ผมบาง ผมล้าน สิ่งต่าง ๆ
ที่กล่าวมานี้ควรที่จะปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยตรง
1. การปรับพฤติกรรมรักษาผมร่วง
วิธีแก้ผมร่วงเริ่มแรกเลยก็ให้ใช้วิธีปรับพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนี้
- กินอาหารบำรุงผมที่มีประโยชน์
- ดูแลเอาใจใส่เส้นผมและหนังศีรษะ พยายามหลีกเลี่ยงสารเคมีอันตราย
- หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนและสารเคมีกับเส้นผม เช่น ยายืดผม
- หมั่นใส่ใจและตรวจเช็คสุขภาพตัวเองอยู่เสมอ
- ดูแลสุขภาพจิตใจให้ปลอดโปร่ง ไม่เครียด
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
2. การรักษาผมร่วงแบบทางเลือก
นอกเหนือจากการกินยาแก้ผมร่วงแล้ว เราอาจจะใช้วิธีรักษาผมร่วงทางเลือก เช่น
- ยาทาประเภทไมนอกซิดิล ซึ่งต้องทาสม่ำเสมอและต้องใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือนขึ้นไป
- ทำทรีทเมนต์ฉีด PRP ผมโดยการเจาะเลือดคนไข้มาปั่นเอาพลาสม่าที่มีเกล็ดเลือดเข้มขึ้นมาฉีดบริเวณผมบาง หมอแนะนำให้ทำเดือนละครั้งติดต่อกัน 3 เดือน หลังจากนั้นทำทุก ๆ 3-6 เดือน ผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดหลัง 6 เดือนเป็นต้นไป
การฉายแสง Laserที่ช่วยกระตุ้นและเพิ่มความแข็งแรงและเร่งการเจริญเติบโตของเส้นผมเกิดใหม่ และป้องกันการหลุดร่วงของเส้นผมเดิม ใช้รักษาปัญหาผมร่วงได้เกือบทุกชนิด มีทั้งการทำเลเซอร์ LLLT (หมวกเลเซอร์) และการทำ Fotona Laser
3. ศัลยกรรมปลูกผมถาวร
สำหรับพวกที่อาจจะใช้ยาไม่ได้ผลเพราะร่างกายไม่ตอบสนองต่อยา หรือเซลล์รากผมอาจเสื่อมจนไม่สามารถงอกใหม่ได้ จึงจำเป็นต้องแก้ไขด้วยการปลูกผมถาวรอย่าง ปลูกผม FUE หรือ ปลูกผม FUT เท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้านเป็นบริเวณกว้าง
ปรึกษาการใช้ยารักษาผมร่วงกับ Absolute Hair Clinic
ในคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับผมร่วง ผมบาง แต่ไม่รู้หรือไม่กล้าซื้อยามาใช้เอง เพราะไม่แน่ใจว่าจะได้ผลหรือไม่
หรือมีผลข้างเคียงหรือเปล่า เราขอแนะนำ Absolute Hair Clinic ที่สามารถช่วยคุณแก้ได้ทุกปัญหาที่เกี่ยวกับหนังศีรษะ แพทย์จะเสนอทางเลือกการรักษาผมร่วงที่มีหลายรูปแบบเช่น การกินยาควบคู่กับการทำทรีทเมนต์ เช่นการปลูกผม เป็นต้น
สรุป
ยากินแก้ผมร่วงดูทาสเตอไรด์นั้น นอกจากรักษาผมร่วงแล้วก็ยังมีผลข้างเคียงตามมา ดังนั้นจึงควรปรึกษา
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คำแนะนำปริมาณยาที่ถูกต้อง และระยะเวลาที่ต้องกินที่เหมาะสม เพื่อเลี่ยงผล
ข้างเคียงให้เกิดน้อยที่สุด บางรายอาจต้องกินยาควบคู่กับทำทรีทเมนต์อื่น ๆ เพื่อผลลัพธ์สูงสุด
คุณสามารถปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผมจาก Absolute Hair Clinic ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ผ่าน