หัวล้านตรงกลาง ผมบางกลางหัว เป็นปัญหาหัวล้านที่เกิดขึ้นได้กับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จากสาเหตุที่แตกต่างกันไป ในผู้เข้ารับการรักษาบางราย มาพบแพทย์เมื่อมองเห็นหนังศีรษะจากภายนอกแล้ว เพราะหัวล้านตรงกลางเป็นบริเวณที่สังเกตค่อนข้างยาก
ในบทความนี้ ทาง Absolute Hair Clinic จึงอยากให้ทุกคนรู้จักกับหัวล้านตรงกลาง ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร รักษาอย่างไรได้บ้าง มีวิธีป้องกันหรือไม่ และวิธีสังเกตตัวเองเพื่อให้เข้ารับการรักษาได้ทันก่อนจะหัวล้านอย่างถาวร
หัวล้านตรงกลาง
หัวล้านตรงกลาง หรือที่เรียกว่าหัวล้านไข่ดาว เป็นลักษณะของหัวล้านที่เกิดขึ้นกลางศีรษะ ผู้หญิงหัวล้านตรงกลางสามารถเกิดขึ้นได้ แต่จะพบในผู้ชายได้มากกว่า หัวล้านตรงกลางเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ทั้งจากกรรมพันธุ์ ฮอร์โมน การแพ้สารเคมี หรือโรคต่างๆที่ทำให้ผมร่วง แต่สาเหตุสำคัญของหัวล้านตรงกลางเกิดจากพันธุกรรมและฮอร์โมน
ลักษณะหัวล้านแบบ Male Pattern Baldness
หัวล้านพันธุกรรมและฮอร์โมนในเพศชายจะมีลักษณะของอาการหัวล้านที่เป็นรูปแบบเดียวกัน เรียกว่า Male Pattern Baldness โดยลักษณะอาการจะเริ่มโดยผมบางและศีรษะล้านในช่วงแนวผมด้านหน้า กับกลางศีรษะ หรืออาจเกิดขึ้นแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง เกิดเป็นลักษณะหัวล้านตรงกลาง
หากปล่อยไว้ให้อาการผมร่วง ผมบาง หัวล้านแย่ลงเรื่อยๆ หัวล้านตรงกลางและด้านหน้าของศีรษะจะขยายวงกว้างออกเรื่อยๆ จนบรรจบกัน เหลือเพียงผมบริเวณท้ายทอยและหลังกกหูเท่านั้น
หัวล้านตรงการเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
ฮอร์โมน
ผมร่วงตรงกลางหัว เกิดจากพันธุกรรมและฮอร์โมนเป็นหลัก ในผู้ชาย อาการผมร่วงผมบางกลางหัว เกิดจากฮอร์โมนที่ชื่อว่า Dihydrotestosterone หรือ DHT
ฮอร์โมนตัวนี้สร้างขึ้นมาจากฮอร์โมนเพศชาย หรือเทสโทสเตอโรน (Testosterone) หาก DHT ไปออกฤทธิ์ที่รากผม จะทำให้รากผมสร้างผมเส้นบางลง รากผมมีระยะสร้างเส้นผมสั้นลง ระยะพักการสร้างเส้นผมนานขึ้น จนในที่สุดรากผมจะไม่สร้างเส้นผม และฝ่อไป
ฮอร์โมน DHT นี้เองเป็นต้นเหตุที่สำคัญอย่างหนึ่งของ Male Pattern Baldness ทำให้ตำแหน่งที่ผมร่วงจากฮอร์โมนได้มากคือแนวผมด้านหน้าและตรงกลางศีรษะ หากปล่อยไว้อาจเกิดเป็นหัวล้านตรงกลางอย่างถาวร จากการฝ่อของรากผมนั่นเอง
ส่วนในผู้หญิง ฮอร์โมนที่มีผลทำให้หัวล้านตรงกลางคือฮอร์โมนเพศหญิงอย่างเอสโตรเจน (Estrogen) ความจริงแล้วฮอร์โมนตัวนี้มีผลอย่างมากต่อความแข็งแรงของเส้นผม ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะทำให้รากผมแข็งแรง มีระยะการสร้างเส้นผมที่ยาวนานกว่าปกติ และระยะพักการสร้างเส้นผมสั้นลง ดังนั้นยิ่งมีเอสโตรเจนมาก จะยิ่งมีผลดีกับเส้นผม
แต่ถ้าฮอร์โมนเอสโตรเจนลดระดับลง จะทำให้ผมร่วงได้มาก เป็นสาเหตุของ อาการผมร่วงในผู้หญิงวัยทอง ผมร่วงหลังคลอด หรืออาการผมร่วงในผู้หญิงที่กำลังใช้ยาที่มีผลกับฮอร์โมนอย่างยาคุมกำเนิด
เมื่อเอสโตรเจนลดต่ำลง จะส่งผลให้ผมร่วงทั่วศีรษะชั่วคราวจนกว่าเอสโตรเจนจะกลับมาอยู่ในระดับปกติเช่น ในช่วงหลังคลอด แต่หากเอสโตรเจนลดต่ำอย่างถาวรอย่างเช่นการเข้าสู่วัยทองแล้วนั้น ผู้หญิงก็จะมีโอกาสผมบางเห็นหนังหัวได้มาก
กรรมพันธุ์
ผมบางกลางหัว เกิดจากกรรมพันธุ์เป็นหลัก หากลองสังเกตดูจะพบว่า ผู้ชายบางส่วนผมไม่บาง หัวไม่ล้านกลางศีรษะแม้จะมีระดับฮอร์โมนเพศชายปกติก็ตาม นั่นเป็นเพราะผลของกรรมพันธุ์
อาการผมร่วง หัวล้านกรรมพันธุ์พบได้มากถึง 2 ใน 3 ของประชากรเพศชายทั้งหมด การที่คน 1 ใน 3 ไม่เกิดอาการหัวล้าน ไม่ใช่เพราะฮอร์โมนเพศชายผิดปกติ แต่เกิดจากกรรมพันธุ์ที่ทำให้ฮอร์โมนไม่มีผลกับรากผมนั่นเอง
หัวล้านตรงกลางมักเกิดจากโรคที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Androgenetic alopecia ซึ่งเป็นชื่อเรียกโรคผมร่วงที่เกิดจากกรรมพันธุ์
โรคผมบางหัวล้านกรรมพันธุ์จะทำให้ตัวรับฮอร์โมน (Receptor) ที่อยู่ในรากผมทำงานได้ดีกว่าปกติ หากตัวรับฮอร์โมนทำงานได้ดี รับคำสั่งจากฮอร์โมน DHT ได้มาก จะทำให้ผมร่วงมากกว่าผู้อื่นที่มีระดับฮอร์โมน DHT เท่ากัน จนผมร่วง ผมบางมาก เกิดเป็นหัวล้านตรงกลางตามแบบ Male Pattern Baldness
ส่วนผมบางกรรมพันธุ์ในผู้หญิงเอง ก็เรียกว่า Androgenetic alopecia เช่นกัน แต่อาการของโรคจะไม่ได้ทำให้ผมร่วงแค่ในแนวผมด้านหน้าหรือหัวล้านตรงกลางเพียงเท่านั้น แต่จะทำให้ผมร่วง จนผมบางทั้งศีรษะ โดยจะเริ่มบางจากกลางศีรษะก่อน ทำให้ผู้หญิงสามารถหัวล้านตรงกลางได้
พันธุกรรมที่ทำให้เกิดผมร่วงในเพศหญิงจะไม่ได้ไปออกฤทธิ์เกี่ยวกับฮอร์โมน แต่จะทำให้รากผมมีระยะการสร้างผมที่สั้น ระยะพักการสร้างเส้นผมยาวนานขึ้น และจะส่งผลเช่นนี้กับผมทั้งศีรษะ โดยจะเริ่มบางจากตรงกลางก่อน ซึ่งลักษณะของผมร่วงเช่นนี้ในผู้หญิงจะเรียกว่า Female Pattern baldness
อาการหัวล้านตรงกลางจากฮอร์โมนและพันธุกรรม อาจจะไม่ได้เกิดจากแค่สองปัจจัยนี้เท่านั้น แต่สามารถเกิดจากปัจจัยอื่นๆร่วมด้วยได้ เช่น ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อการสร้างผม, ระบบเลือดไม่ดี ทำให้ลำเลียงสารอาหารมาที่รากผมได้ไม่ดีพอ, ความเครียดส่งผลให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงานผิดปกติ, หรือโรคอื่นๆที่มีผลกับเส้นผม อย่างโรคที่มีผลกับฮอร์โมน ระบบภูมิคุ้มกัน หรือระบบไหลเวียนเลือด
ความผิดปกติที่กล่าวมานี้อาจไม่ได้ก่ออาการผมร่วงโดยตรง แต่จะเป็นการกระตุ้นให้อาการของโรคผมร่วงแสดงออกมามากขึ้น จนทำให้ผมร่วงและหัวล้านอย่างรวดเร็ว
โรคที่ทำให้เกิดหัวล้านตรงกลาง
โรคในกลุ่มนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะเจาะจงที่กลางศีรษะ แต่หากบังเอิญเกิดที่กลางศีรษะ จะทำให้หัวล้านตรงกลางได้ ซึ่งโรคที่ทำให้หัวล้านตรงกลาง มีดังนี้
1. โรคเชื้อราบนหนังศีรษะ (Tinea Capitis)
โรคเชื้อราบนหนังศีรษะเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อรา หากเกิดที่ศีรษะจะทำให้เกิดขุยที่หนังศีรษะ คัน ผมร่วงเป็นหย่อม ถ้ามีอาการอักเสบรุนแรงระหว่างติดเชื้อ จะทำให้รอยโรคที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นแผลเป็นหลังจากหายแล้ว ส่งผลให้หัวล้านตรงกลางอย่างถาวร
ทั้งนี้โรคดังกล่าวเกิดขึ้นได้น้อยกับผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุ แต่จะสามารถพบมากได้ในเด็กอายุประมาณ 4 – 14 ปีที่ภูมิคุ้มกันยังไม่ดีมากนัก และในผู้ใหญ่ที่ร่างกายอ่อนแอจากโรคหรือสาเหตุอื่นๆ
2. โรคผื่นแพ้สัมผัสที่หนังศีรษะ (Contact Dermatitis)
โรคผื่นแพ้สัมผัสสามารถเกิดขึ้นที่ศีรษะได้เช่นกัน โดยปกติแล้วหากไม่เกาให้เกิดแผล และไม่สัมผัสกับสิ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้อีก อาการของโรคก็จะหายไปเอง แต่ถ้าแพ้รุนแรงจนเกิดการอักเสบที่ผิวหนังในบริเวณที่แพ้ อาจก่อให้เกิดแผลเป็นจนหัวล้านตรงกลางเหมือนกับโรคเชื้อราบนหนังศีรษะได้ ดังนั้นผู้ที่รู้ว่าตนเองมีอาการแพ้รุนแรง ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสิ่งที่แพ้ให้ได้มากที่สุด
3. โรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata)
โรคผมร่วงเป็นหย่อม เกิดจากอาการอักเสบใต้ผิวหนัง จากการที่ระบบภูมิคุ้มกันโจมตีเนื้อเยื่อในร่างกาย เมื่อภูมิคุ้มกันโจมตีที่เนื้อเยื่อบริเวณหนังศีรษะจะทำให้รากผมทำงานผิดปกติชั่วคราวจนผมร่วงเป็นหย่อม หากเกิดที่กลางศีรษะอาจทำให้หัวล้านตรงกลางชั่วขณะได้
ทั้งนี้โรคผมร่วงเป็นหย่อมสามารถหายเองได้ เมื่อเวลาผ่านไปผมจะงอกกลับขึ้นมากตามปกติ แต่ในบางกรณีโรคอาจอาการแย่ลง พื้นที่ผมที่ร่วงเป็นวงขยายออก หรืออาจจะมีผมขึ้นมาไม่เท่ากับก่อนเกิดโรค หากมีอาการในลักษณะนี้ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและหนังศีรษะเพื่อแก้ไขต่อไป
ปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดหัวล้านตรงกลาง
หัวล้านตรงกลาง เกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัยจากที่ได้อธิบายได้ด้านบน ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมน กรรมพันธุ์ โรคต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดหัวล้านตรงกลาง ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นสาเหตุหลักอีกด้วย
- ช่วงอายุ เนื่องจากเมื่อเรามีอายุที่มากขึ้น ความแข็งแรงของเส้นจึงไม่ได้แข็งแรงเหมือนเดิม โดยทั่วไปแล้วเส้นผมของเราจะแข็งแรงจนถึงอายุ 30 ปี ภายหลังจากนั้นวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมอย่างเซลล์รากผมจะพบว่ามีอัตราการเกิดน้อยลงมาก จากผู้ที่มีผมหนาก็จะกลับบางลง ผู้ที่ผมบางอยู่แล้วกลับบางลงอีกจนกลายเป็นหัวล้านตรงกลาง
- สภาพแวดล้อม สภาพแวดล้อม เช่น การดูแลผม การอาบน้ำ การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผม และการรับประทานอาหารมีผลต่อสุขภาพของเส้นผมและการเจริญเติบโตเซลล์รากผมเช่นกัน
- ความเครียด อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อการร่วงของเส้นผม รวมถึงสุขภาพของเส้นผมด้วย หากคุณรู้สึกว่าความเครียดของคุณอยู่ในระดับที่มีผลต่อสุขภาพ ควรพิจารณาการปรึกษากับนักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญทางจิตเวชเพื่อหาทางออกการรักษา
รูปแบบของอาการผมร่วง หัวล้านในผู้หญิงเรียกว่า Female Pattern Baldness เป็นอาการที่ผู้หญิงผมร่วงทั้งศีรษะจนผมบาง ซึ่งอาการนี้สามารถทำให้ผู้หญิงหัวล้านตรงกลางได้ เนื่องจาก Female Pattern Baldness ส่วนที่มักจะผมร่วงก่อนส่วนอื่นคือส่วนกลางศีรษะ ทำให้เมื่อผมบางทั้งศีรษะจนถึงจุดหนึ่ง ผู้หญิงจะหัวล้านตรงกลางก่อน หากไม่รักษาพื้นที่หัวล้านจะขยายออกไปเรื่อยๆจนทำให้หัวล้านเกือบทั้งศีรษะได้
สัญญาณเตือนหัวล้านตรงกลาง
ผมบางกลางหัวทั้งผู้ชายและผู้หญิง สามารถรู้ได้ก่อนที่จะหัวล้าน หรือผมบางจนมองเห็นได้จากภายนอกหากสังเกตตนเองอยู่เสมอ ถ้ารู้สึกว่าผมร่วงมากกว่าปกติ ผมร่วงแล้วไม่งอกใหม่ หรือผมที่งอกขึ้นมาใหม่เส้นเล็กและบางกว่าเดิมโดยเฉพาะตรงกลางศีรษะ ก็จะถือว่าเสี่ยงหัวล้านตรงกลาง
แล้วเราสามารถรู้ได้อย่างไรว่าผมร่วงมากกว่าปกติ? วิธีการสังเกตที่ง่ายที่สุดคือการนับเส้นผม โดยการนับผมนี้มีด้วยกันทั้งหมด 3 วิธี ได้แก่
- นับผมที่ร่วงออกมาหลังสระผม ในกรณีที่สระผมทุกวันไม่ควรนับผมได้เกิน 100 เส้น หรือในกรณีที่สระผมวันเว้นวัน ไม่ควรนับผมได้เกิน 200 เส้น หากเกินจำนวนนี้ จะถือว่าผมร่วงมากกว่าปกติ
- นับเส้นผมเป็นเวลา 1 อาทิตย์ ให้เก็บผมที่ร่วงจากการหวีผมวันละ 5 ครั้ง ช่วงเช้า สาย บ่าย ช่วงเย็นก่อนสระผม และก่อนนอน ทำแบบนี้ทุกวัน แล้วหาค่าเฉลี่ยว่าแต่ละวันผมร่วงออกมากี่เส้น หากค่าเฉลี่ยเกินกว่า 100 เส้นจะถือว่าผมร่วงมากกว่าปกติ
- วัดผมร่วงโดยการหวีผม 1 นาที โดยให้หวีผมทั้งศีรษะไปเรื่อยๆเป็นเวลา 1 นาที หากผมร่วงออกมามากกว่า 10 – 20 เส้น จะถือว่าผมร่วงมากกว่าปกติ
เมื่อไหร่ที่ควรเริ่มพบแพทย์
คนเราผมร่วงเป็นปกติอยู่แล้ว แต่หากร่วงเกินเกณฑ์ก็จะถือว่ามีความผิดปกติ ดังนั้นผู้ที่รู้สึกว่าผมร่วงมากกว่าเกณฑ์ สามารถมาพบแพทย์ได้เลยโดยที่ไม่ต้องรอให้ผมบางลงจนสามารถเห็นได้จากภายนอก
ยิ่งมาพบแพทย์เร็ว การรักษายิ่งมีตัวเลือกมากขึ้น และมีโอกาสทำให้ผมร่วงน้อยลงได้มาก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผมบางหรือหัวล้านตรงกลางมากขึ้นจนสายเกินแก้
การวินิจฉัยหัวล้านตรงกลาง
การวินิจฉัยหัวล้านตรงกลางจากพันธุกรรมและฮอร์โมนจะดูที่ลักษณะภายนอกของบริเวณที่หัวล้าน ร่วมกับการซักประวัติ ว่าที่ผ่านมาเป็นมานานแค่ไหน ผมร่วงเยอะกว่าปกติมากน้อยเพียงใด มีขนส่วนอื่นร่วงหรือมีอาการอะไรร่วมด้วยหรือไม่ ประกอบกับประวัติอาการเจ็บป่วยของคนไข้ และประวัติอาการหัวล้านตรงกลางของคนในครอบครัว
ส่วนการสังเกตจากภายนอกนั้นจะดูตั้งแต่สภาพเส้นผมไปจนถึงหนังศีรษะ หากหัวล้านตรงกลางจากโรคทางพันธุกรรม พื้นที่ที่เห็นหนังศีรษะจะมีขอบไม่ชัด อาจมีรูปแบบอื่นๆของ Male หรือ Female Pattern baldness ร่วมด้วย สภาพหนังศีรษะไม่มีอาการบวม แดง คัน มีแผลเป็น หรือมีกลากที่หนังศีรษะ
แพทย์จะต้องพิจารณาส่วนประกอบเหล่านี้ควบคู่กันเพื่อพิจารณาหาสาเหตุของอาการผมร่วงจนหัวล้านตรงกลาง และรักษาอาการหัวล้านที่สาเหตุต่อไป
แนะนำวิธีรักษาหัวล้านตรงกลาง ผมบางกลางหัว
1. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แม้จะไม่สามารถรักษาอาการผมร่วงที่ต้นเหตุได้ แต่สามารถบรรเทาอาการผมร่วงโดยการลดปัจจัยเลี่ยงอื่นๆที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งสิ่งที่ควรทำและควรหลีกเลี่ยง มีดังนี้
- ทานอาหารบำรุงผม โดยเฉพาะโปรตีน เพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับการสร้างเส้นผม
- งดทานอาหารที่เป็นอันตรายกับร่างกายและเส้นผม โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูง
- ผ่อนคลายความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ลดโอกาสที่ทำให้ผมร่วง
- นวดหนังศีรษะเป็นประจำ ช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด
- หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีอันตรายกับเส้นผมและหนังศีรษะ เพื่อเลี่ยงอาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นได้
- ไม่ซื้อยาต่างๆมาทานเอง โดยเฉพาะยาที่ส่งผลกับฮอร์โมน ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาทุกชนิด
2. การรักษาด้วยการใช้ยาแก้ผมร่วง
หัวล้านตรงกลาง รักษาด้วยยาแก้ผมร่วงได้ ยาแก้ผมร่วงที่ใช้กันในปัจจุบันมี 2 ชนิดแบ่งออกตามตัวยา ได้แก่ยาไฟแนสเตอรายด์ (Finasteride) และยาไมนอกซิดิวล์ (Minoxidil) ทั้งสองตัวนี้ออกฤทธิ์ต่างกัน เหมาะกับผู้ที่หัวล้านตรงกลางจากสาเหตุต่างกัน
ไฟแนสเตอรายด์จะออกฤทธิ์กระตุ้นให้รากผมสร้างผม และช่วยลดฮอร์โมน DHT ต้นเหตุของอาการหัวล้านตรงกลางจากฮอร์โมนและพันธุกรรม แต่ก็มีข้อเสียเป็นผลข้างเคียงที่ทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลง และไม่สามารถใช้รักษาผู้หญิงที่หัวล้านตรงกลางได้
ส่วนไมนอกซิดิวล์จะออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของรากผม และไปขยายหลอดเลือด ช่วยให้เลือดและสารอาหารถูกลำเลียงมาที่รากผมได้ดีขึ้น เหมาะกับการใช้รักษาผมบางกลางหัวในผู้หญิง แต่ผู้ชายก็สามารถใช้ได้เช่นกัน ไมนอกซิดิวล์มีทั้งแบบเม็ดและแบบทา โดยที่แบบทาจะมีผลข้างเคียงน้อยกว่าเนื่องจากออกฤทธิ์เฉพาะที่
ทั้งนี้ยาทั้งสองตัวมีผลข้างเคียงอันตรายหากใช้ผิดวิธี ผู้ที่สนใจใช้ยาแก้ผมร่วงควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้ อีกทั้งยาแก้ผมร่วงสามารถแก้ผมร่วงได้ในระยะแรกและระยะกลางเท่านั้น หากผมร่วงมากจนรากผมฝ่อจะไม่สามารถรักษาด้วยวิธีนี้ได้ จำเป็นต้องรักษาหัวล้านตรงกลางด้วยการปลูกผมเท่านั้น
3. การรักษาแบบทางเลือก
การรักษาทางเลือก เป็นวิธีการรักษาผมร่วงในระยะต้นและระยะกลางเหมือนกับการใช้ยา แต่จะใช้การรักษาวิธีนี้ในกรณีที่ผู้เข้ารับการรักษาไม่อยากใช้ยา กลัวผลข้างเคียง ไม่สามารถใช้ยาเป็นประจำได้ แพ้ยา หรือใช้ยาแก้ผมร่วงไม่ได้ผล โดยการรักษาทางเลือกที่ทาง Absolute Hair Clinic ให้บริการอยู่นั้น มี 2 วิธี ดังนี้
1. การทำ PRP ผม
การทำ PRP ผมเป็นการรักษาอาการหัวล้านตรงกลางด้วยการใช้เกล็ดเลือดเข้มข้นที่อุดมไปด้วยเกล็ดเลือด Growth Factor และสารอาหารที่มีประโยชน์ต่างๆเข้าไปที่หนังศีรษะ ช่วยให้รากผมที่เสื่อมสภาพจากสาเหตุต่างๆ กลับมาฟื้นฟูตัวเองให้แข็งแรงอีกครั้ง ทั้งยังเสริมสร้างการสร้างเส้นผม รวมถึงการสร้างเส้นเลือดฝอยที่หนังศีรษะ ช่วยให้มีสารอาหารมาเลี้ยงที่รากผมย่างเพียงพออีกด้วย
Rigennera Activa หรือการฉีดสเต็มเซลล์ผม เป็นการรักษาอาการผมร่วงหัวล้านตรงกลาง โดยการฉีดสเต็มเซลล์ที่ได้จากการปั่นแยกรากผมเป็นเซลล์ด้วยใบมีดขนาดเล็ก แล้วฉีดกลับเข้าไปบริเวณหนังศีรษะ
สารที่ได้จากการปั่นแยกเซลล์รากผมนั้นอุดมไปด้วยสเต็มเซลล์รากผมที่กำลังจะเติบโตไปเป็นเซลล์ต่างๆบริเวณหนังศีรษะ, สารที่เป็นวัตถุดิบในการสร้างเส้นผม, สารกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม, และสารที่ช่วยลดการทำงานของฮอร์โมน DHT ทำให้ผมร่วงจากฮอร์โมนน้อยลง สารต่างๆเหล่านี้จะทำให้อาการหัวล้านตรงกลางในระยะต้นและระยะกลางดีขึ้นได้
การรักษาทางเลือกทั้งสองวิธีมีความปลอดภัยสูง และแทบไม่พบผลข้างเคียงเลย เนื่องจากสารที่นำมาฉีดเป็นสารที่มาจากร่างกายผู้เข้ารับการรักษาเองทั้งสิ้น ในการฉีด PRP จะมีสารช่วยลดการแข็งตัวของเลือด และใน Rigennera Activa จะมีน้ำเกลือผสมอยู่ หากไม่ได้แพ้สารดังกล่าวก็จะไม่มีผลข้างเคียงได้ๆเลย
4. การทำเลเซอร์ปลูกผม
การทำเลเซอร์ถือเป็นการรักษาทางเลือกอีกแบบหนึ่ง สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการใช้ยา กลัวการฉีดสารเข้าร่างกาย หรือรักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล
การทำเลเซอร์ถือเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัยมาก และผลข้างเคียงต่ำ หลายคนอาจกังวลว่าเลเซอร์อาจส่งผลกับสมองได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วเลเซอร์ปลูกผมไม่สามารถส่งผลใดๆกับสมองได้เลย เนื่องจากเลเซอร์ที่ใช้เป็นเลเซอร์พลังงานต่ำ ที่จะส่งผลกับผิวหนังด้านนอกเท่านั้น ไม่สามารถทะลุผ่านชั้นผิวหนังเข้ามาจนถึงสมองหรือร่างกายส่วนอื่นๆได้
การทำเลเซอร์เพื่อรักษาอาการหัวล้านตรงกลางสามารถรักษาได้เพียงอาการหัวล้านในระยะแรกและระยะกลางเช่นเดียวกัน โดยเลเซอร์ที่ทาง Absolute Hair Clinic ให้บริการอยู่นั้น มีด้วยกัน 2 ชนิด ได้แก่
1. Fotona Laser
โฟโตน่าเลเซอร์ เป็นการรักษาหัวล้านตรงกลางด้วยเลเซอร์พลังงานต่ำสองตัว เลเซอร์ดังกล่าวจะไปกระตุ้นการทำงานของรากผม และเซลล์ต่างๆบริเวณหนังศีรษะโดยตรง ทำให้รากผมทำงานได้ดีขึ้น เลือดไหลเวียนได้ดี ทำให้ผมเส้นใหญ่ แข็งแรง ไม่ขาดร่วงง่าย
นอกจากนี้ที่ Absolute Hair Clinic ยังเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย ที่นำเลเซอร์โฟโตน่าเข้ามาใช้รักษาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเส้นผมและหนังศีรษะที่ได้รับการรับรองจากองค์กรระดับโลก
2. LLLT
เลเซอร์ LLLT หรือเลเซอร์คลื่นแสงความถี่ต่ำ (Low Level Laser Light) เป็นการรักษาหัวล้านตรงกลางโดยการฉายเลเซอร์เข้าไปที่หนังศีรษะ เลเซอร์เหล่านี้จะให้พลังงานระดับเซลล์กับเซลล์ต่างๆที่หนังศีรษะ ช่วยให้เซลล์ทำงานได้ดีขึ้น ทั้งเซลล์รากผมและเซลล์ที่เกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือด ทำให้เส้นผมงอกได้มากขึ้น ทั้งยังช่วยลดการอักเสบและทำให้แผลสมานเร็วขึ้นในกรณีที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดปลูกผมมาด้วย
5. การปลูกผมถาวร ปลูกผมกลางหัว
การปลูกผมถาวร ปลูกผมกลางหัว เป็นการรักษาหัวล้านกลางหัวในระยะที่เป็นมาก แพทย์จะแนะนำให้ปลูกผมก็ต่อเมื่อไม่สามารถรักษาอาการหัวล้านด้วยวิธีการอื่นได้อีกแล้ว การปลูกผมเป็นการนำรากผมออกมาจากบริเวณที่มีผมเยอะ และรากผมแข็งแรง อย่างบริเวณท้ายทอยและหลังกกหู เพื่อนำมาปลูกในบริเวณที่หัวล้าน
เมื่อหัวล้านจนรากผมฝ่อไปทั้งหมด ไม่สามารถฟื้นฟูรากผมให้กลับมาทำงานได้ด้วยวิธีการต่างๆ แพทย์จึงต้องสร้างรากผมขึ้นใหม่ในบริเวณที่หัวล้าน โดยวิธีการสร้างรากผมในบริเวณดังกล่าว จะเป็นการย้ายรากผมจากบริเวณอื่นๆของศีรษะที่ยังมีผมหนาอยู่ มาปลูกในตำแหน่งที่หัวล้าน เพื่อให้ผมกลับมาขึ้นใหม่ได้นั่นเอง
แล้วทำไมต้องเป็นเส้นผมบริเวณท้ายทอยและหลังกกหู? ในผู้ชาย บริเวณท้ายทอยและหลังกกหูเป็นบริเวณที่เส้นผมจะไม่ร่วงจากฤทธิ์ของฮอร์โมน เนื่องจากรากผมในบริเวณดังกล่าวไม่มีตัวรับฮอร์โมน DHT เมื่อย้ายรากผมจากท้ายทอยและหลังกกหูไปในตำแหน่งใหม่ รากผมจะไม่ฝ่อไปจากฮอร์โมนเหมือนกับรากผมเดิม
ส่วนในผู้หญิงนั้น ผมที่ท้ายทอยและหลังกกหูไม่ใช่เส้นผมถาวร เพราะสามารถร่วงไปด้วยอิทธิพลของพันธุกรรมและฮอร์โมนได้เหมือนกับเส้นผมในส่วนอื่นๆ เพียงแต่อาการผมบางหัวล้านมักจะเกิดขึ้นที่กลางศีรษะก่อน เมื่อต้องปลูกผมแพทย์จึงเลือกใช้เส้นผมบริเวณท้ายทอยมาปลูกก่อน เนื่องจากจะเป็นส่วนที่ร่วงไปช้าที่สุดนั่นเอง
ทั้งนี้การปลูกผมเพื่อรักษาผมบางในผู้หญิงไม่นิยมทำมากนัก หากไม่ได้หัวล้านมากจริงๆ เนื่องจากเส้นผมที่นำมาปลูกไม่ใช่เส้นผมถาวร เมื่อเวลาผ่านไปเส้นผมดังกล่าวสามารถร่วงได้จากเหตุผลเดิมหากไม่ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะด้วยวิธีการอื่นๆร่วมด้วย อีกทั้งการปลูกผมยังเป็นการรบกวนหนังศีรษะ จนอาจทำให้ผมร่วงมากกว่าเดิมได้
การปลูกผมถาวรมีด้วยกัน 2 วิธี แบ่งตามวิธีการนำรากผมออกมาจากช่วงท้ายทอยและหลังกกหู ได้แก่
การปลูกผม FUT เป็นการนำรากผมออกมาโดยการตัดหนังศีรษะบางส่วนออกมาพร้อมกับรากผม แล้วจึงนำไปตัดแยกเป็นกราฟท์ (Graft) ใต้กล้องจุลทัศน์กำลังขยายสูง ก่อนจะนำไปปลูกบริเวณหัวล้านตรงกลาง
ข้อดีของวิธีนี้คือมีโอกาสปลูกผมติดสูงมาก เนื่องจากการแยกกราฟท์โดยการใช้กล้องจุลทัศน์มีความแม่นยำสูง กราฟผมเสียหายได้น้อยมาก แต่ก็มีข้อเสียที่จะทิ้งรอยแผลเป็นลักษณะเป็นเส้นยาวไว้ที่บริเวณท้ายทอย จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการไว้ผมสั้นหลังจากรักษา เนื่องจากจะทำให้เห็นรอยแผลเป็นได้
การปลูกผม FUE เป็นการปลูกผมที่เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากหลังการรักษาแทบไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้เลย แพทย์จะนำรากผมออกมาจากหนังศีรษะด้วยเครื่องเจาะรากผมไฟฟ้า ทำให้รอยแผลเป็นจากการรักษามีขนาดเล็กมาก ไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก
การปลูกผม FUE ก็มีข้อจำกัดเช่นกัน คืออาจมีโอกาสปลูกผมขึ้นน้อยหากแพทย์ที่ทำไม่มีความเชี่ยวชาญ เพราะการใช้เครื่องเจาะไฟฟ้าอาจทำลายรากผมระหว่างการเจาะหากใช้เครื่องมือไม่ชำนาญ เมื่อรากผมเสียหาย ผมก็จะปลูกไม่ขึ้น อีกทั้งยังไม่เหมาะกับผู้ที่ทำให้ผมท้ายทอยบาง เพราะการนำรากผมออกไปอาจทำให้ผมในบริเวณดังกล่าวบางกว่าเดิม
นอกจากการปลูกผม FUE ธรรมดาแล้ว ยังมีการปลูกผมผู้หญิงที่นิยมทำกันมาก เรียกว่า Long Hair FUE ด้วย วิธีนี้จะเป็นการปลูกผมโดยการไม่ตัดผมก่อนการนำรากผมออกมาจากบริเวณท้ายทอย ทำให้กราฟผมที่ได้ออกมามีผมยาวติดอยู่ เมื่อปลูกลงไปจะเห็นแผลปลูกผมไม่ชัด และจะมีผมยาวตั้งแต่หลังปลูกผมเลย
ทั้งนี้ ในผู้เข้ารับการรักษาแต่ละคนเหมาะกับการรักษาวิธีใดนั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาสภาพเส้นผมและหนังศีรษะโดยแพทย์ ความเหมาะสมเรื่องเวลา และงบประมาณเนื่องจากราคาปลูกผมแต่ละวิธีนั้นไม่เท่ากัน
วิธีป้องกันผมบางกลางหัว หัวล้านตรงกลาง
บางครั้งหัวล้านตรงกลางที่เกิดจากพันธุกรรมและฮอร์โมนไม่สามารถป้องกันได้ แต่เราสามารถลดความเสี่ยงเพื่อลดโอกาสการเกิดหัวล้าน หรือช่วยชะลออาการของโรคให้เกิดช้าลงได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
- สังเกตสภาพผมของตนอยู่เสมอ
- รีบเข้าพบแพทย์ด้านเส้นผมและหนังศีรษะตั้งแต่รู้ตัวว่าผมเริ่มร่วงมากกว่าปกติ
- แก้ไขพฤติกรรมทำร้ายเส้นผม อย่างการใช้ความร้อนและสารเคมีกับเส้นผม หรือการมัดผมแน่นเกินไป
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม อย่างเนื้อสัตว์ ไข่ ถั่ว นม ผักใบเขียว และผลไม้ต่างๆ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงสาเหตุของการเกิดโรคที่ทำให้ผมร่วงได้
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
การปลูกผม เป็นวิธีการแก้ปัญหาหัวล้านตรงกลางที่ควรทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะมีความเสี่ยงหลายอย่างขณะทำ ทั้งเสี่ยงที่จะต้องแก้ไขหากแพทย์ปลูกทิศทางของเส้นผมไม่สวยงาม เสี่ยงปลูกไม่ขึ้น และที่สำคัญอาจเสี่ยงติดเชื้อหรือเกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆหลังรักษา ซึ่งบางครั้งสามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ที่ Absolute Hair Clinic เราปลูกผมทุกเคสโดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ อย่างคุณหมอก้องเกียรติ และคุณหมอโบนัส ที่เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเส้นผมและหนังศีรษะ ทั้งสองท่านมีผลงานการปลูกผมที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ให้ผู้เข้ารับการรักษามั่นใจว่ากำลังได้รับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญจริง
รู้จักกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมทั้งผลงานของแพทย์แต่ละท่านจาก Absolute Hair Clinic
ข้อสรุป
หัวล้านตรงกลางจะรักษายากหากปล่อยไว้นานจนรากผมฝ่อหายไป ทางที่ดีควรเข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ หากอาการหัวล้านตรงกลางเกิดจากพันธุกรรมหรือฮอร์โมน การซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงหนังศีรษะมาใช้เองอาจไม่ได้ผลเท่าที่ควร ทางที่ดีควรปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทางเพื่อป้องกันหัวล้านตรงกลางอย่างถาวรที่รักษาได้ยาก
หัวล้านตรงกลาง ผมร่วงมากกว่าปกติ หรือมีปัญหาเส้นผม สามารถเข้ามาพูดคุยเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดพบกับแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผมและหนังศีรษะจาก Absolute hair clinic ได้ที่ Line: @Absolutehairclinic หรือ ติดต่อ Absolute Hair Clinic
References
AEDIT Staff. (2022). Bald Spots., (Online). Available from:
https://aedit.com/concern/bald-spots
Stephanie S. Gardner. (2022). Alopecia Areata & Hair Loss: Causes, Treatments, and Tips to Cope., (Online). Available from:
https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/alopecia-areata
Ramin Fathi. (2021). Hair Loss (Alopecia) – Symptoms and Causes., (Online). Available from:
https://www.pennmedicine.org/for-patients-and-visitors/patient-information/conditions-treated-a-to-z/hair-loss-alopecia-areata
Anna H. Chacon. (2022). What causes balding in the back of the head?., (Online). Available from:
https://blog.walgreens.com/health/general-health/what-causes-balding-in-the-back-of-the-head.html