16 อาหารบำรุงผม สารอาหารที่เส้นผมต้องการ รักษาผมร่วงจากภายใน

อาหารบำรุงผม

หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า “You are what you eat.” จากเรื่องของการดูแลรูปร่างมาบ้าง แต่การดูแลผมเอง ก็เป็นไปตามคำกล่าวนี้เช่นกัน ถ้าทานอาหารบำรุงผมเป็นอย่างดี ผมก็จะเงางามขึ้น นุ่มขึ้น ไม่เปราะขาดง่าย

แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณไม่ทานอาหารบำรุงผม ทานแต่สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ หรือเป็นโทษกับผม ผมของคุณก็อาจร่วงง่าย ผมแตกปลาย แห้ง เปราะ ขาด จนอาจทำให้ผมบาง ศีรษะล้านได้ในที่สุด

แล้วอาหารเสริมบำรุงผมที่ว่าคืออะไร ? สามารถหาซื้อจากไหนได้บ้าง ? เราบอกได้เลยว่าไม่ต้องซื้อ เพราะสารอาหารบำรุงรากผมและอาหารบำรุงเส้นผมเป็นสิ่งที่สามารถหาทานได้ในอาหารทั่วไปนั่นเอง

แล้วเราต้องทานอะไรบ้าง ? อาหารบำรุงผมร่วงแต่ละอย่างบำรุงผมได้อย่างไร ? วันนี้เรามีคำตอบให้คุณ

รู้จักกับ Absolute Hair Clinic คลินิกรักษาอาการผมร่วง ผมบาง โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางประสบการณ์สูง : Absolute Hair Clinic

ผมร่วง ผมบาง แก้ไขได้ด้วยอาหารบำรุงผม

อาหารผมดก หรือก็คืออาหารบำรุงเส้นผมและอาหารบำรุงรากผมนั่นเอง ซึ่งเป็นสารอาหาร แร่ธาตุ และวิตามินที่ผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม อาหารเหล่านี้จะบำรุงผมโดยการเข้าไปทำให้รากผมมีวัตถุดิบที่เพียงพอในการสร้างผม และยังเข้าไปช่วยให้กระบวนการสร้างผมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

ซึ่งอาหารบำรุงผมร่วงจะส่งผลให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น เส้นหนาขึ้น เปราะขาดน้อยลง ไม่แตกปลาย เงางาม ทั้งยังเร่งผมยาวเร็วกว่าปกติอีกด้วย

ในผู้ที่เป็นโรคผมร่วง ผมบางเนื่องจากพันธุกรรม ฮอร์โมน หรือโรคต่างๆ อาหารบำรุงผมอาจไม่ได้ช่วยให้อาการผมร่วงทุเลาลง หรือทำให้ผมกลับมาหนาเหมือนเดิม แต่อาหารเหล่านี้จะช่วยให้รากผม สร้างผมได้ดีขึ้น มีคุณภาพมากขึ้น

ดังนั้นถ้าทานอาหารบำรุงผมเหล่านี้ไปพร้อมๆกับการรักษาของแพทย์ ก็จะทำให้การรักษาเห็นผลดีขึ้น

ผมร่วงผมบาง แก้ไขได้ด้วยการปลูกผม เรียนรู้เพิ่มเติมเรื่องการปลูกผมที่นี่ : ปลูกผม

ประโยชน์ของอาหารบำรุงผม

อาหารบำรุงผมดกดำ มีประโยชน์ดังนี้

  • ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น เอื้อต่อการสร้างผมมากขึ้น
  • ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อการสร้างผม
  • อาหารบำรุงผมทำให้ผมเส้นหนาขึ้น และเติบโตได้ดีขึ้น
  • อาหารบำรุงผมทำให้ผมเงางาม, สุขภาพดี, ไม่แตกปลาย, เปราะ หรือขาดร่วงได้ง่าย
  • อาหารบำรุงผมมีส่วนช่วยรักษาเส้นผมให้อยู่กับเรานานขึ้น
  • อาหารบำรุงผมช่วยให้เส้นผมไม่หงอกก่อนวัยอันควร

สารอาหารบำรุงผม มีอะไรบ้าง

อาหารบํารุงเส้นผม

1. โปรตีน (Protein)

โปรตีน (Protein) เป็นสารอาหารบำรุงผมที่ช่วยให้ผมแข็งแรงได้มาก เนื่องจากเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดในการสร้างผม โดยส่วนประกอบหลักของผมคือโปรตีนที่จับตัวกันจนมีโครงสร้างที่แข็งแรง เรียกว่าเคราติน

หากร่างกายได้รับโปรตีนน้อยเกินไป ร่างกายจะสร้างผมได้ช้าลง โครงสร้างของเคราตินก็จะไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ส่งผลให้ผมเปราะขาดง่าย มีอาการผมร่วงเนื่องจากการขาดโปรตีนได้

เราสามารถเสริมโปรตีนได้จากการทานอาหารผมเคราตีน จำพวกเนื้อสัตว์, ไข่, ถั่ว และนม สิ่งที่แนะนำให้ทานคือ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน, เนื้อไก่ส่วนอก, ปลา, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ, เต้าหู้, ถั่วเหลือง และควินัว

2. ไบโอติน (Biotin)

ไบโอติน (Biotin) หรือที่รู้จักกันในชื่อวิตามินเอช (Vitamin H) ความจริงแล้วคือวิตามินบี 7 นั่นเอง ไบโอตินนี้เป็นอาหารบำรุงผมที่มีความสำคัญกับเส้นผมอย่างมาก เนื่องจากเส้นผมมีเคราตินเป็นส่วนประกอบหลัก และไบโอตินเป็นสิ่งที่ช่วยให้โครงสร้างของเคราตินแข็งแรง จึงมีส่วนสำคัญทำให้เส้นผมแข็งแรงนั้นเอง

หากขาดอาหารบำรุงผมอย่างไบโอตินไป ผมของเราก็จะเส้นเล็กลง เปราะขาดง่าย และอาจจะทำให้สีผมเปลี่ยนไปได้ด้วย ดังนั้นเราจึงควรทานอาหารที่มีไบโอตินเพื่อเสริมวิตามินให้กับร่างกาย อาหารที่มีไบโอตินเช่น ถั่ว, แครอท, วอลนัท และดอกกะหล่ำ

แต่ในปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยใดที่ยืนยันได้ว่าการรับประทานไบโอตินเข้าไป จะส่งผลดีกับผมโดยตรง ทางที่ดีคือถ้าหาทานได้จากอาหารปกติ ก็ควรทาน แต่ไม่จำเป็นต้องทานอาหารเสริมที่เป็นไบโอตินโดยเฉพาะเพื่อใช้เป็นอาหารบำรุงผม เนื่องจากอาจเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

อีกเรื่องหนึ่งที่มีการโฆษณากันอย่างแพร่หลาย คือกินไบโอตินผมยาวเร็ว ในความเป็นจริงการกินไบโอติน หรืออาหารเสริมไบโอตินไม่ได้มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าทำให้ผมยาวเร็วขึ้นจริง แถมการทานไบโอตินยังอาจมีผลข้างเคียงทำให้ท้องเสียหรือผื่นขึ้น แต่ถ้าแพ้หนักอาจจะทำให้เกิดอาการบวมและหายใจลำบากได้

ดังนั้นหากต้องการทานไบโอตินแบบอาหารเสริม ไม่ควรซื้อมากินเอง ควรพบแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาผม และความเป็นไปได้ในการทานไบโอตินรักษาปัญหานั้น หากมีอาการผมร่วง แพทย์อาจจะให้ทานยาแก้ผมร่วง ที่สามารถเห็นผลได้จริงมากกว่าการทานไบโอติน

3. ธาตุเหล็ก (Iron)

ธาตุเหล็กบำรุงผม

ธาตุเหล็ก (Iron) เป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่ง ที่แม้จะไม่ได้เป็นอาหารบำรุงผมโดยตรง แต่ธาตุเหล็กจะไปช่วยบำรุงเลือด ให้สามารถลำเลียงสารอาหารมาที่ผมได้มากขึ้น

ธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบหลักของฮีโมโกรบิน (Hemoglobin) ในเม็ดเลือด ฮีโมโกรบินมีหน้าที่จับกับออกซิเจนจากปอด แล้วนำไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย และยังสามารถจับกับคาบอนไดออกไซด์ เพื่อลำเลียงไปให้ปอดขับออกจากร่างกายได้อีกด้วย

เมื่อฮีโมโกรบินแข็งแรงจากธาตุเหล็ก ก็จะสามารถลำเลียงออกซิเจนได้ดี เมื่อออกซิเจนถูกลำเลียงไปที่รากผมมากเพียงพอ รากผมก็จะมีออกซิเจนเพียงพอต่อการสร้างผม ทำให้ผมงอกได้ดีอย่างเป็นปกติ และทำให้ผมแข็งแรง ไม่ร่วงง่ายด้วย

เราสามารถบริโภคธาตุเหล็กได้จากการทานเนื้อสัตว์ที่เป็นเนื้อแดง, เลือด, ตับ, เครื่องในสัตว์, อาหารทะเล, ไข่ และธัญพืช เป็นต้น

4. ซิงค์ (Zinc)

ซิงค์ (Zinc) หรือสังกะสี เป็นอาหารบำรุงผมที่เป็นแร่ธาตุสำคัญอย่างหนึ่ง มีผลเกี่ยวกับผมและเล็บเป็นส่วนใหญ่ โดยซิงค์นั้นมีผลทำให้รากผมแข็งแรงและลดอาการผมร่วง ซึ่งซิงค์แก้ผมร่วงได้เนื่องจากมีผลทำให้เคราตินแข็งแรงขึ้น

นอกจากนี้ ซิงค์ยังช่วยทำให้ต่อมไขมันที่ผมทำงานได้อย่างเป็นปกติ เมื่อต่อมไขมันสามารถสร้างไขมันออกมาได้ตามปกติ ไขมันเหล่านั้นจะไปเคลือบเส้นผมไว้ ทำให้เส้นผมเงางาม, หวีง่าย, ไม่พันกัน และผมไม่เปราะขาด แตกปลายง่าย ทั้งยังสามารถควบคุมความเป็นกรดด่างของหนังศีรษะได้ รวมถึงไม่ทำให้เกิดรังแคอีกด้วย

เราสามารถพบซิงค์ได้จากอาหารจำพวกอาหารทะเล, หอยนางรม, ปู, กุ้งมังกร, หอยแมลงภู่, เมล็ดทานตะวัน, ถั่วลิสง, เนื้อวัว, เนื้อแกะ, เนื้อหมู และธัญพืช

5. กรดไขมันโอเมกา-3 (Omega-3 Fatty Acids)

กรดไขมันโอเมกา – 3 (Omega – 3 Fatty Acids) เป็นอาหารบำรุงผมที่ได้จากการบริโภคเข้าไปในร่างกายเท่านั้น เนื่องจากร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้

กรดไขมันตัวนี้สามารถพบได้ในไขมันที่อยู่บนหนังศีรษะ เนื่องจากเป็นส่วนประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งในไขมันที่สร้างขึ้นจากต่อมไขมันบนหนังศีรษะ กรดไขมันโอเมกา – 3 นี้เองที่ทำให้หนังศีรษะของเราชุ่มชื้น เป็นอาหารบำรุงผมให้มีน้ำหนัก ผมเป็นเงางาม

กรดไขมันโอเมกา – 3 สามารถพบได้มากในอาหารจำพวกปลาไขมันสูง เช่น ปลาแซลม่อนหรือปลาแมคเคอเรล แต่หากไม่สามารถทานปลาได้ ก็จะสามารถได้กรดไขมันตัวนี้จากเมล็ดแฟลกซ์, วอลนัท, ถั่วเหลือง และน้ำมันคาโนล่า

6. วิตามินเอ (Vitamin A)

วิตามินเอบำรุงผม

วิตามินเอ (Vitamin A) เป็นวิตามินบำรุงผมที่มีส่วนช่วยให้ผมแข็งแรง และกระตุ้นการเติบโตของผม ทั้งยังเป็น Antioxidant ด้วย

Antioxidant หรือสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยผมเกี่ยวกับการสร้างโปรตีนเคราติน เนื่องจากอนุมูลอิสระมักส่งผลกับการการสร้างโปรตีนของ DNA มีผลเสียกับเซลล์สร้างใหม่

อนุมูลอิสระในรากผมส่งผลเสียกับการสร้างเคราติน หากมีวิตามินเอที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ DNA ของเราก็จะสามารถทำงานได้ปกติ ทำให้เคราตินของเส้นผมถูกสร้างอย่างปกตินั่นเอง

เราสามารถพบวิตามินเอได้มากในผักสีส้ม, สีเหลือง, สีเขียวเข้ม, น้ำมันตับปลา และเครื่องในสัตว์

7. วิตามินบีรวม (B Vitamins)

วิตามินบีรวม (B Vitamins) อื่น ๆ นอกจากไบโอตินก็เป็นอาหารบำรุงผมเหมือนกัน แต่จะช่วยในทางอ้อม เนื่องจากวิตามินบี 6, วิตามินบี 12 และโฟเลต หรือวิตามินบี 9 ก็มีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง ที่จะเป็นตัวลำเลียงออกซิเจน และสารอาหารต่างๆมายังรากผม

หากไม่ได้รับวิตามินบีที่เพียงพอ จะทำให้เซลล์ขาดสารอาหารบำรุงผม จนส่งผลให้ผมร่วงได้ง่าย, งอกช้า, เปราะ และแตกหักง่าย โดยเราสามารถเสริมวิตามินบีได้จากเนื้อหมู, เนื้อไก่, ถั่ว และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากนม

8. วิตามินซี (Vitamin C)

วิตามินซี (Vitamin C) เป็นอาหารบำรุงผมที่สำคัญมากอย่างหนึ่งของร่างกาย ในเรื่องเกี่ยวกับเส้นผม วิตามินซีจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น เมื่อดูดซึมธาตุเหล็กได้ดี เม็ดเลือดก็จะแข็งแรงมากขึ้น ลำเลียงสารอาหารไปยังรากผมได้ดีขึ้น

นอกจากนี้วิตามินซียังเป็นส่วนประกอบของการสร้างเนื้อเยื่อบริเวณรากผมด้วย หากขาดวิตามินซีไป ร่างกายจะทรุดโทรม และส่งผลต่อผมอย่างมากทีเดียว

เราสามารถเสริมสร้างวิตามินซีให้กับร่างกายได้โดยการทานผักผลไม้เพื่อใช้เป็นอาหารบำรุงผม เช่น ฝรั่ง, ส้ม, สตรอเบอร์รี่, พริกหวาน, บลอกโคลี หรือผักคะน้า เป็นต้น

นอกจากการทานอาหารแล้ว สามารถบำรุงผมด้วยการทำทรีทเมนต์เพื่อเป็นอาหารเสริมผมร่วงได้ด้วย :

16 อาหารบำรุงผม เสริมสร้างรากผมแข็งแรง

จากหัวข้อที่แล้ว จะเห็นว่าสารอาหารต่างๆอยู่ในอาหารหลากหลายชนิดจนเราไม่สามารถทานหมดทุกอย่างที่กล่าวถึงได้ เราจึงได้รวบรวมอาหารที่มีสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นกับผมไว้ทั้งหมด 10 อย่างด้วยกัน ซึ่งอาหารที่เราแนะนำ มีดังนี้

1. ไข่

ไข่นับว่าเป็นอาหารบำรุงผมอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ เนื่องจากไข่อุดมไปด้วยโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบหลักของเส้นผมอย่างเคราติน แถมยังอุดมไปด้วยไบโอติน ที่มีหน้าที่ทำให้โครงสร้างเคราตินแข็งแรงอีกด้วย

ไข่ยังไม่ได้ให้ประโยชน์แค่ตอนนำมารับประทานเท่านั้น แต่ไข่แดงยังเป็นอาหารแก้ผมร่วงที่สามารถนำมาหมักผมเพื่อเพิ่มความเงางามให้ผม และเพิ่มความชุ่มชื้นให้หนังศีรษะเพื่อลดอาการระคายเคืองที่อาจทำให้ผมร่วงในอนาคตได้ด้วย

โดยการวิธีการหมักด้วยไข่แดงลดผมร่วงนั้น จะเป็นการนำไข่แดงมาผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ เช่น น้ำมันมะกอก, โยเกิร์ต, น้ำผึ้ง หรือน้ำมะพร้าว และจึงหมักทิ้งไว้สักพักก่อนจะทำการล้างออก

2. ปลาที่มีไขมันสูง

ปลาไขมันสูง

ปลาที่มีไขมันสูง อย่างเช่น ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า และปลาแมคเคอเรล จะอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมกา – 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จะพบในไขมันซึ่งเคลือบอยู่บนหนังศีรษะ ทำให้ผมเป็นเงางาม ไม่แตกปลาย หนังศีรษะไม่เป็นรังแค ด้วยเหตุนี้เองปลาไขมันสูงจึงนับเป็นอีกหนึ่งในอาหารบำรุงผม

3. เนื้อแดง

เนื้อสัตว์

เนื้อสัตว์อย่างเช่น เนื้อวัว, เนื้อหมู, เนื้อไก่ และเนื้อแกะ โดยเฉพาะส่วนตับ อาหารบำรุงผมเหล่านี้มีโปรตีนบำรุงผมอยู่มาก นอกจากนี้ในเนื้อแดงและตับยังอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ที่ทำให้เม็ดเลือดแดงลำเลียงออกซิเจนมาที่ผมได้ดีขึ้นอีกด้วย

4. ผักใบเขียว

ผักใบเขียว

ผักบำรุงผม ได้แก่ผักใบเขียวต่าง ๆ อย่างผักโขม, ผักคะน้า และผักคะน้าใบหยิก ซึ่งผักเหล่านี้อุดมไปด้วยวิตามินหลายชนิด ทั้งวิตามินบี, วิตามินเอ, วิตามินซี ทั้งยังมีธาตุเหล็กและซิงค์ ที่ช่วยในการเจริญเติบโตของผม และทำให้ผมแข็งแรงทั้งในทางตรงและทางอ้อมอีกด้วย

5. ผลไม้

ผลไม้

ผลไม้แก้ผมร่วง เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่, เชอร์รี่, องุ่น, ส้ม, อะโวคาโด, ฝรั่ง และลูกพรุน ซึ่งผลไม้เหล่านี้มีวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลาย ทั้งยังมีวิตามินซีสูง จึงทำให้มีผลดีต่อเลือด และเนื้อเยื่อบริเวณรากผม

6. พริกหวาน

พริกหวานเป็นผักอีกอย่างหนึ่งที่อุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ ที่สำคัญคือพริกหวานมีวิตามินซีสูงมาก จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพริกหวานถึงอยู่ในหมู่อาหารบำรุงผมนั่นเอง ซึ่งวิตามินซีจากพริกหวานจะส่งผลดีต่อเลือดที่จะไปเลี้ยงรากผม และยังดีต่อเนื้อเยื่อบริเวณนั้นด้วย

7. มันหวาน

อาหารบำรุงผมอีกหนึ่งชนิดที่หลาย ๆ คนอาจคาดไม่ถึง ซึ่งก็คือมันหวานนั่นเอง โดยมันหวานนั้นอุดมไปด้วยสารที่ชื่อว่าเบต้าแคโรทีน (Beta – Carotene) และร่างกายของเราจะเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนให้เป็นวิตามินเอ ที่นอกจากจะช่วยต้านอนุมูลอิสระและทำให้ผมแข็งแรงแล้ว ยังกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมได้อีกด้วย

8. ถั่ว

ถั่วเป็นอาหารบำรุงผมเส้นเล็กที่ดีมากอย่างหนึ่ง เนื่องจากถั่วอุดมไปด้วยโปรตีน, วิตามินเอ, วิตามินบี, กรดไขมัน, ซิงค์ และไบโอติน ซึ่งมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของผม และการสร้างผม อีกทั้งยังบำรุงหนังศีรษะได้ทั้งในทางตรงและทางอ้อม

9. โอ๊ตมีล

โอ๊ตมีล

โอ๊ตมีลเป็นอาหารบำรุงผมที่อุดมไปด้วยวิตามินบี, โฟเลต และธาตุเหล็ก ซึ่งจะบำรุงผมทั้งในทางตรงและทางอ้อม นอกจากนี้ผู้คนยังมักทานโอ๊ตมีลเพื่อเป็นอาหารเสริมสำหรับควบคุมน้ำหนักอีกด้วย

10. ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ

ผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำ เช่น นม, โยเกิร์ต หรือชีส เป็นอาหารบำรุงผมที่มีประโยชน์มากกว่านมปกติ เนื่องจากผลิตภัณฑ์พวกนี้จะถูกนำส่วนที่เป็นไขมันออกไปมาก และทำให้สิ่งที่เหลือจะเป็นโปรตีนโดยส่วนใหญ่ ซึ่งโปรตีนมีประโยชน์ต่อการสร้างเส้นผมอย่างมาก

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำยังอุดมไปด้วยวิตามินบี ที่จะช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งมีหน้าที่ลำเลียงสารอาหารมาหล่อเลี้ยงรากผมอีกด้วย

กำลังเครียดเกี่ยวกับอาการผมร่วงอยู่ใช่ไหม ? สามารถปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Absolute Hair Clinic ได้โดยตรง : Line: @Absolutehairclinic

11. อะโวคาโด

อะโวคาโดเป็นอาหารบำรุงผมที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ, วิตามินบีรวม และธาตุเหล็ก ซึ่งล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติที่สามารถช่วยบำรุงผมให้ห่างไกลจากปัญหาผมร่วงได้ทั้งสิ้น โดยการบำรุงผมด้วยอะโวคาโดนั้นสามารถทำได้ทั้งการรับประทานและการนำไปหมักผม

และสูตรสำหรับการหมักผมด้วยอะโวคาโดก็สามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแค่นำเนื้ออะโวคาโดมาผสมรวมกับน้ำมันมะกอก และหมักบนเส้นผมที่หมาดทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที หลังจากนั้นจึงค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด และสระผมด้วยแชมพูตามปกติ แค่นี้ผมก็จะเงางามแข็งแรง หมดกังวลปัญหาผมร่วงไปได้เลย

12. หอยแมลงภู่ หอยนางรม

หอยแมลงภู่และหอยนางรมนับเป็นอาหารบำรุงผมที่ช่วยลดปัญหาผมร่วงได้ทั้งคู่ ถึงแม้ว่าจะมีสารอาหารที่ต่างกันเพียงเล็กน้อย โดยหอยแมลงภู่จะอุดมไปด้วยธาตุเหล็กและคอลลาเจนที่สูง ซึ่งมีคุณสมบัติที่ช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง ส่วนหอยนางรมนั้นจะอุดมไปด้วยซิงค์และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งนอกจากจะมีคุณสมบัติที่ช่วยลดปัญหาผมร่วงแล้ว ยังช่วยป้องกันรังแคได้อีกด้วย

13. เต้าหู้

สำหรับเต้าหู้ที่เป็นอาหารบำรุงผมนั้นก็คือเต้าหู้ถั่วเหลืองนั่นเอง อย่างที่รู้กันดีว่าเต้าหู้ชนิดนี้ทำมาจากถั่วเหลือง จึงทำให้มีสารอาหารที่จำเป็นต่อเส้นผม ได้แก่ โปรตีน และธาตุเหล็ก ซึ่งสารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติที่ช่วยให้เส้นผมและรากผมแข็งแรง ไม่อ่อนแอหรือหลุดร่วงง่าย ๆ 

14. มะเขือเทศ

เมื่อพูดถึงประโยชน์ของมะเขือเทศไม่ว่าใครก็ล้วนนึกถึงการบำรุงผิวพรรณให้ขาวกระจ่างใสกันทั้งนั้น แต่ความจริงแล้วมะเขือเทศยังสามารถรับประทานเป็นอาหารบำรุงผมได้ด้วยเช่นกัน โดยมะเขือเทศนั้นอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก, วิตามินเอ และวิตามินซี ซึ่งมีคุณสมบัติที่ช่วยให้รากผมและเส้นผมแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของเส้นผมอีกด้วย

15. มันเทศ

มันเทศเป็นอาหารบำรุงผมที่มีประโยชน์มากมายหลายด้าน เพราะไม่เพียงแค่จะช่วยในการบำรุงสายตาและบำรุงผิวเท่านั้น แต่ยังสามารถลดปัญหาผมร่วง, กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม และเสริมความแข็งแรงให้แก่เส้นผมและรากผมได้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากมันเทศนั้นอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน โดยร่างกายของเราจะเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนให้กลายเป็นวิตามินเอ ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญในการบำรุงผมนั่นเอง

16. เห็ด

ด้วยสารอาหารของเห็ดที่มีทั้งโปรตีนและไบโอตินซึ่งจะเป็นต่อสุขภาพเส้นผม จึงทำให้เห็ดได้เป็นอีกหนึ่งในบรรดาอาหารบำรุงผม ซึ่งจากสารอาหารที่มีในเห็ด จึงทำให้มีคุณสมบัติที่ช่วยให้เส้นผมและรากผมแข็งแรง ไม่เปราะหักหรือหลุดร่วงง่าย นอกจากนี้ยังช่วยให้ผมหงอกช้าลงอีกด้วย

อาหารที่ควรเลี่ยง เมื่อผมร่วง

นอกจากอาหารบำรุงผมที่ควรทานแล้ว การดูแลผมยังมีอาหารที่ควรเลี่ยงด้วยเช่นกัน เนื่องจากอาหารบางชนิดสามารถทำให้ผมร่วงได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงต้องเลือกทานอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผมร่วงหรือเป็นหนักขึ้น โดยอาหารที่ควรเลี่ยงมีดังนี้

1. อาหารไขมันสูง

อาหารไขมันสูงบางประเภทไม่ดีต่อผม ซึ่งจะดีหรือไม่ดีนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของไขมัน ไขมันที่ดีเป็นไขมันที่จะพบได้ในปลาไขมันสูงหรือน้ำมันตับปลา แต่ไขมันที่ไม่ดีที่ส่งผลให้ผมร่วง เป็นไขมันที่เราจะพบในเนื้อหมูหรือเนื้อวัวที่ติดมัน รวมไปถึงน้ำมันพืชที่ใช้ในการทำของทอดต่าง ๆ

ที่ควรหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูงเป็นเพราะไขมันพวกนี้มีส่วนในการเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (testosterone) ที่จะเปลี่ยนรูปไปเป็นฮอร์โมน DHT และทำให้ผมร่วง ผมบางมากขึ้นในที่สุด

ฮอร์โมน DHT คืออะไร ? ทำให้ผมร่วง ผมบางได้อย่างไร ? : ฮอร์โมน DHT

2. คาเฟอีน

คาเฟอีนเป็นสารที่พบได้ในชา, กาแฟ และเครื่องดื่มน้ำอัดลมบางชนิด ซึ่งคาเฟอีนจะเป็นตัวการทำให้เส้นเลือดหดตัว ส่งผลให้ความดันสูงขึ้น จนอาจจะทำให้เส้นเลือดฝอยถูกทำลาย

หากเส้นเลือดฝอยบนศีรษะถูกทำลายมากจนเกินไป จะทำให้เลือดไปเลี้ยงที่รากผมไม่เพียงพอ จนทำให้รากผมฝ่อลงเรื่อย ๆ ส่งผลให้ผมร่วง ผมบาง และอาจเกิดเป็นศีรษะล้านได้ในที่สุด

3. แอลกอฮอล์

แอลกอฮอล์จะส่งผลกับผมในลักษณะเดียวกับคาเฟอีน คือทำให้เส้นเลือดหดตัว, ความดันสูง และเส้นเลือดฝอยถูกทำลาย ทำให้สารอาหารไปเลี้ยงที่รากผมไม่พอจนอาจจะทำให้ศีรษะล้านได้ นอกจากนี้แอลกอฮอล์ยังทำให้แก่เร็ว และสมรรถภาพทางเพศเสื่อมได้ง่ายอีกด้วย

4. น้ำตาลเทียม

น้ำตาลเทียม อย่างเช่นแอสปาร์แตม (Aspartame) เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่ส่วนประกอบหลักเป็นกรดไขมันสองชนิด คือกรดแอสปาร์ติก และฟีนิลอะลานีน

ในปัจจุบันยังไม่ทราบว่าเป็นกรดอะมิโน หรือสารตัวใดในน้ำตาลเทียมที่ทำให้ผมร่วง แต่มีการทดลองในกลุ่มตัวอย่าง และพบว่าน้ำตาลเทียมทำให้ผมร่วงอย่างมีนัยสำคัญ หากไม่อยากให้ผมร่วง ผมบาง จึงควรหลีกเลี่ยงการทานขนม หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเทียมเป็นส่วนประกอบ

จะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังผมร่วงมากจนควรพบแพทย์ ? : การวัดผมร่วงโดยการหวีผมหนึ่งนาที

วิธีบำรุงผมอื่น ๆ

วิธีการบำรุงเส้นผมและรากผมให้แข็งแรงสวยงาม และไม่ขาดหลุดร่วงได้ง่าย ไม่ได้มีเพียงแค่การเลือกรับประทานอาหารเท่านั้น แต่ยังมีวิธีอื่น ๆ อยู่ด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นทางเลือกให้สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกจะรับประทานอาหารบำรุงผม โดยวิธีบำรุงผมอื่น ๆ มีดังนี้

  • สระผมอย่างถูกวิธี

สำหรับวิธีสระผมที่ถูกต้องนั้นจะต้องสระผมด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิในระดับเดียวกับห้อง เลี่ยงการใช้น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนในการสระผม และในขณะสระผมก็ไม่ควรเกาหนังศีรษะด้วยความรุนแรง เพราะนอกจากจะทำให้ผมขาดหลุดร่วงแล้ว ยังอาจทำให้หนังศีรษะเกิดการอักเสบอีกด้วย ดังนั้นในขณะสระผมจึงควรใช้วิธีการนวดให้ทั่วหนังศีรษะด้วยปลายนิ้วแทน เพื่อให้เลือดบนหนังศีรษะมีการไหลเวียนที่ดียิ่งขึ้น และส่งผลให้เส้นผมแข็งแรงตามไปด้วยนั่นเอง

นอกจากนี้ยังต้องมีความถี่ในการสระผมที่เหมาะสม บางคนอาจสงสัยว่าสระผมทุกวันดีไหม? ต้องบอกเลยว่าไม่ควรสระผมทุกวัน เพราะจะทำให้เส้นผมและหนังศีรษะขาดความชุ่มชื้น จนส่งผลให้เส้นผมแตกปลายและเกิดปัญหารังแคตามมาได้

  • หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนหรือสารเคมี

เมื่อเส้นผมต้องสัมผัสกับความร้อนหรือสารเคมีอยู่บ่อยครั้ง จะทำให้เส้นผมเสียหาย ซึ่งส่งผลให้ผมเปราะบางและขาดหลุดร่วงได้ง่าย เพื่อเป็นการถนอมให้เส้นผมที่แข็งแรงอยู่กับเราไปได้นาน ๆ จึงควรหลีกเลี่ยงสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นไดร์ร้อน, อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมที่ต้องใช้ความร้อน รวมไปถึงผมเสียจากการกัดสีผมหรือย้อมสีเคมี

  • ใช้ซีรัมบำรุงผม

การใช้ซีรัมเพื่อบำรุงเส้นผมนั้นสามารถใช้ตอนไหนเมื่อไหร่ล้วนแล้วแต่ความสะดวกของบุคคล แต่ถ้าหากต้องการตื่นเช้ามาแล้วมีผมที่ดูแข็งแรงสวยงาม ก็อาจเลือกใช้ซีรัมบำรุงผมก่อนเข้านอน หรือว่าหากใครจำเป็นที่จะต้องจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อน ก็อาจเลือกใช้ซีรัมบำรุงผมก่อนจัดแต่งทรงผม เพื่อบำรุงและถนอมเส้นผมที่จะต้องเจอกับความร้อน

บำรุงผมด้วยตนเองแล้วยังไม่ดีขึ้น แนะนำปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง

ถ้าหากใครที่ได้ลองบำรุงผมด้วยการเลือกรับประทานอาหารบำรุงผมและวิธีอื่น ๆ ในการบำรุงผมแล้วยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ สามารถติดต่อมาที่ Absolute Hair Clinic ได้เลย ปัญหาเส้นผมของคุณจะได้รับการรักษาอย่างตรงจุดและปลอดภัยแน่นอน

ที่ Absolute Hair Clinic เป็นคลินิกที่ให้การรักษาและแก้ไขปัญหาเส้นผมโดยเฉพาะ ซึ่งก่อตั้งโดยอาจารย์แพทย์ที่ได้รับรางวัล American board และ FISHRS รวมถึงงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ให้คุณสามารถมั่นใจได้ถึงความเชี่ยวชาญและประสบการณ์

สนใจสามารถติดต่อสอบถามหรือขอคำปรึกษาได้ที่เบอร์โทร 087-275-2989, 095-927-3938 หรือ

LINE : @Absolutehairclinic

Website : Absolute hair clinic

E-mail : consultabsolutehairclinic@gmail.com

Absolute Hair Clinic

สรุป อาหารบำรุงผม ช่วยผมดกดำ

อาหารบำรุงผมนั้นสามารถช่วยให้ผมดกดำได้ก็จริง แต่จะช่วยได้แค่ในคนที่ผมร่วงไม่มาก หากมีอาการผมร่วง, ผมบาง หรือศีรษะล้าน อันมีเหตุมาจากพันธุกรรม, ฮอร์โมน หรือโรคต่าง ๆ ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษา แล้วจึงทานอาหารบำรุงผมเพื่อช่วยให้ผลการรักษาดีขึ้น แต่หากปล่อยไว้ไม่พบแพทย์ ผมของคุณอาจจะหลุดร่วงไปจนไม่สามารถมีผมจริงได้อีกเลยก็เป็นได้

กำลังผมร่วง ผมบาง ต้องการคำปรึกษาในการดูแลหนังศีรษะและเส้นผม สามารถติดต่อกับทาง Absolute Hair Clinic ได้โดยตรง : LINE: @Absolutehairclinic

References

WELL STATED. (2021). Essential Nutrition for Healthy Hair. Retrieved March 20, 2023. from https://www.canyonranch.com/well-stated/post/essential-nutrition-for-healthy-hair/

WebMD Editorial Contributors. (2023). Understanding Hair Loss: The Basics. Retrieved March 20, 2023. from https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/hair-loss/understanding-hair-loss-basics

Marsha McCulloch. (2023). 15 Healthy Foods High in B Vitamins. Retrieved March 20, 2023. from https://www.healthline.com/nutrition/vitamin-b-foods

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณเองได้โดยการคลิกตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยการเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อให้เราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหาให้เหมาะสมกับความสนใจของคุณ หากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาให้ตรงกับความสนใจของคุณได้
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า